มูลนิธิบูรณะนิเวศ มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม และกรีนพีซ ประเทศไทย ร่วมกันออกแถลงการณ์ว่าด้วยการกำกับดูแล ความโปร่งใส และภาระรับผิดกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหายจากโรงไฟฟ้า จ.ปราจีนบุรี โดยระบุว่า จากโคบอลต์-60 ถึงซีเซียม-137 นับว่าเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมของการที่วัสดุกัมมันตรังสีหลุดรอดออกจากการควบคุมดูแล เหตุการณ์ทั้งสองนี้เกิดขึ้นห่างกันกว่า 20 ปี แต่ยังคงสะท้อนปัญหาในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ครั้งหลังนี้นับว่ายังไม่จบ ถึงแม้ว่าจากการแถลงของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบหลักอย่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะสื่อกับสังคมไปในท่วงทำนองว่าไม่มีสิ่งใดต้องห่วงใยแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) และกรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) ขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดดำเนินการดังนี้

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรวจสอบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในสถานที่ที่มีเบาะแสว่า อาจได้รับซีเซียม-137 โดยตรวจสอบการปนเปื้อนทั้งในสิ่งแวดล้อมและของเสีย เช่น ฝุ่นเหล็กและผลิตภัณฑ์จากโรงหลอม เพื่อประเมินความเสี่ยงและมีมาตรการในการแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนที่ชัดเจน โดยรัฐต้องสนับสนุนมาตรการป้องกันและเยียวยาความเสียหาย เช่น การประกาศพื้นที่เสี่ยงภัย กำหนดรัศมีพื้นที่ที่ต้องมีการตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และต้องให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงได้รับการตรวจสุขภาพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งจัดทำข้อมูลสื่อสารความเสี่ยงเพื่อความเข้าใจและการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดำเนินการอื่นใดเพื่อป้องกันไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยไม่ผลักภาระให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องรับผิดชอบเอง นอกจากนั้นจะต้องกำหนดแผนการดำเนินการกับฝุ่นเหล็กและวัสดุต่างๆที่ปนเปื้อนรังสีซีเซียม-137 ให้ปลอดภัยและชัดเจนรวมทั้งมีการดำเนินการอย่างโปร่งใส

โดยกรณีนี้เป็นสถานการณ์อุบัติภัยร้ายแรงซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชนและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังและรอบด้าน แล้วเปิดเผยความจริงต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส โดยจะต้องมีการสืบสวนและตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นับตั้งแต่ก่อนการสูญหาย ว่าระบบการเก็บรักษาวัตถุกัมมันตรังสีและการกำกับดูแลระบบความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าที่เป็นผู้ครอบครองวัตถุอันตรายร้ายแรงดังกล่าวเป็นอย่างไร การสูญหายเกิดขึ้นได้อย่างไร มีช่องว่างหรือช่องโหว่อะไรบ้าง เป็นต้น รวมทั้งสืบสวนและตรวจสอบเหตุการณ์ภายหลังจากการสูญหายด้วย โดยควรที่จะต้องมีการสอบย้อนให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทาง

แถลงการณ์ระบุต่อไปว่า เมื่อมีการตรวจสอบและพบว่ามีการกระทำความผิด หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดหรือละเมิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการให้เกิดการรับผิดชอบต่อความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ไม่ควรที่จะต้องใช้งบประมาณของรัฐซึ่งคือภาษีของประชาชนไปกับการดำเนินการทั้งหมดของเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเป็นการป้องปรามเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องมีการสรุปบทเรียน จากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น และทบทวนช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก