ภายหลัง เว็บไซต์ราชกิจจนุเบกษาเผยแพร่ "  พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๖  " เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน ความดังต่อไปนี้

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๒ และบัดนี้ได้ปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีที่สี่อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สมควร  ยุบสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อจัดให้มีการ  เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่  เป็นการเลือกตั้งทั่วไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นการคืนอ านาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐๓ และมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "  พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๖  "

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป

มาตรา ๔ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ

มาตรา ๕ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

วันนี้ “สยามรัฐออนไลน์” ขอเปิด ขั้นตอนหลังจาก มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาว่า จะมีขั้นตอนและจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนถึง “วันเลือกตั้ง” ในเดือนพฤษภาคม

เมื่อมี"พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร" ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ต้องกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ไม่เร็วกว่า  45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

และตามกฎหมาย กกต. จะต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 5 วัน นับแต่วันยุบสภา โดยช่วงเวลาของการเปิดรับสมัคร คือ 5 วัน

จากนั้นจึงจะเปิดสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 วัน และเมื่อปิดรับสมัครแล้ว นับต่อไปอีกไม่เกิน 7 วัน กกต. จะต้องประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งคาดว่าขั้นตอนเหล่านี้จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน 2566

ต่อมา กกต. จะต้องประกาศหน่วยเลือกตั้ง สถานที่ลงคะแนน และรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ประชาชนอย่างเราทราบก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน โดย กกต. จะส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน ให้เราตรวจสอบรายชื่อก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน ซึ่งเราสามารถเช็กดูได้ว่า ชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านของตนเองครบหรือไม่ มีชื่อใครขาดหรือเกินมารึเปล่า ถ้ามีชื่อใครขาดหรือเกินมา ก็จะมีเวลาทักท้วงแจ้งเพิ่ม-ถอนชื่อ ก่อนถึงวันเลือกตั้งได้ไม่น้อยกว่า 10 วัน

อีกทั้ง กกต. จะต้องสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน และหากมีการเปลี่ยนแปลงหน่วยเลือกตั้งหรือสถานที่ลงคะแนนจะต้องแจ้งให้ประชาชนทราบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งได้ กกต. จะประกาศวันเลือกตั้งล่วงหน้า ให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิได้ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นวันที่เท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ไม่ว่างไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้จริงๆ ก็ยังสามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียสิทธิอื่นๆ ทางการเมือง โดยแจ้งเหตุได้ภายใน 7 วัน ก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง

และสุดท้าย วันเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นภายใน 45-60 วันนับตั้งแต่ยุบสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค.66 หรือวันที่ 14 พ.ค. 66 นั่นเอง