จากกรณีพบศพแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองถูกฆ่าหมู่ 3 ศพ และนำไปทิ้งนอนเรียงกันบริเวณชายป่าห่างจากถนนลพบุรีราเมศวร์ เข้าไปราว 200 เมตร ก่อนถึงไปรษณีย์ เขต 9 พื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี 1 ศพถูกจับมัดมือมัดมัดเท้าและใช้มีดปาดคอ ส่วนอีก 2 ศพถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและศรีษะและทั้งสามคนผูกเชือกแดงที่ข้อมือเป็นสัญลักษณ์ และทั้ง 3 ศพเป็นชายอายุราว 30-40 ปี 2 คน และวัยรุ่นอีก 1 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุด วันที่ 20 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการระดมทีมสืบสวนจาก 5 หน่วยทั้งชุดสืบสวน สภ.บางกล่ำ ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 ชุดสืบสวน ตม.สงขลา ตามแกะรอยหาเบาะแสคนร้ายทั้งจากภาพกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานแวดล้อม ก็ทราบว่าคดีนี้เบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติ โดยจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเกิดเหตุมีรถกระบะตู้ทึบ 3 คันขับเข้าออกจากจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นรถขนแรงงานเถื่อน

จากการเปิดเผยของ พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผู้กำกับการ สภ.บางกล่ำ ระบุว่า คดีนี้หลังจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานได้มีการขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คนและจับกุมได้หมดทั้ง 5 คนแล้วเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ประกอบด้วย นายชวัลวิชย์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือโก้ อายุ 22 ปี พร้อมนางสาวหนึ่งฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี แฟนสาว นายนรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) หรืออั้ม อายุ 24 ปี พร้อมนางสาวกมลวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) หรือบิ๋ม อายุ 25 ปี แฟนสาว และนายนาวี (ขอสงวนนามสกุล) หรือมาร์ค อายุ 28 ปี ทั้ง 5 คนเป็นชาว จ.สมุทรปราการ

พร้อมกับยึดรถที่ใช้ก่อเหตุ 5 คันจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ 2 คัน เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี 1 คัน และ จ.นราธิวาส 2 คัน แยกเป็นรถขนแรงงานเถื่อนและรถนำทาง 3 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะตู้ทึบที่ใช้ขนแรงงานเถื่อนและรถนำทาง 3 คัน ประกอบด้วยรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักษ์รีโว่ สีขาว ทะเบียน กทม. รถกระบะยี่ห้ออีซูซูดีแมค สีเทา ทะเบียน กทม. ซึ่งสองคันนี้เป็นรถขนแรงงานพม่ามาคันละประมาณ 15 คน และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน กทม.ซึ่งเป็นรถนำทาง ส่วนอีก 2 คันเป็นรถกระบะมีรั้วหรือรถคอกและรถตู้ซึ่งเป็นรถที่มารับช่วงต่อไปส่งที่ จ.นราธิวาส

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การว่า ขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมามาจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มาเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 14 มีนาคม และมาส่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จุดที่พบศพในเวลาประมาณ 10.30 น.ของวันเดียวกัน ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งสามคนนั้น ขนมากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมค สีเทา ทะเบียน กทม.ที่มีนายนรินทร์ หรืออั้ม นางสาวกมลวรรณ หรือบิ๋ม แฟนสาวขับขี่มา และเป็นรถคันที่อยู่ตรงกลาง

โดยบอกว่า ขับรถมาตามถนนสายเอเชียจนมาถึงช่วง จ.สุราษฎร์ธานีกับ จ.นครศรีธรรมราช ได้ยินเสียงดังผิดปกติท้ายรถเหมือนกันต่อสู้กัน จนฝากระโปรงท้ายเปิด จึงหยุดรถและรีบปิดทันทีเพราะกลัวเหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามีการฆ่ากันตายในรถ จนขับมาถึงปลายทางในที่เกิดเหตุตอนที่ให้แรงงานต่างด้างลงจากรถจึงรู้ว่ามีการฆ่ากันตายถึง 3 คนจึงให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวยกลงจากรถมาทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีรถอีกสองคันซึ่งเป็นกระบะรั้วกับรถตู้มารับช่วงต่อขนแรงงานต่างด้าวไปยังปลายทางที่ จ.นราธิวาส

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนถูกแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันปิดบัง ซ่อนเร้น ย้ายทำลายศพฯ,ร่วมกันซ่อนเร้นให้ที่พักพิง ช่วยเหลือประการใดใดให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมาย

ผกก.สภ.บางกล่ำ เปิดเผยว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนขยายผลต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมากลุ่มนี้ทั้งต้นทางและปลายทางที่ จ.นราธิวาส ซึ่งยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ก่อเหตุฆ่าแรงานต่างด้าวด้วยกันนั้นถูกส่งต่อไปยังปลายทางที่ จ.นราธิวาส แล้วตอนนี้ยังไม่สามารถบอกว่าได้ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วหรือไม่หรือว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่