เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (19 มี.ค.66) ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี พรรคพลัง ประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1/2566 โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่งโดยสมาชิกพรรคพลังทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 1,500 คน
โดยมีตัวแทน กกต.ประจำจังหวัดนนทบุรี เข้าร่วมสังเกตการณ์และกองทัพสื่อมวลชนนำเสนอข่าว โดยในกิจกรรมทางการเมือง พรรคพลังได้จัดให้มีการเลือกตั้ง กก.บห.พรรคพลังชุดใหม่ เลือกตั้งประธานและคณะกรรมการสรรหา ส.ส. และประธานและคณะกรรมการจริยธรรมสมาชิกพรรค และเปิดตัวประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคพลัง
โดยมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค.66 ดร.ชัยยพล พสุรัตรน์บรรจง หัวหน้าพรรคพลังคนแรกได้ยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้ คณะกรรมการบริหารพรรคพลัง ได้สิ้นสภาพไปทั้งคณะ เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภา เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในสัปดาห์หน้านี้ คาดหมายเป็นวันนี้
พรรคพลัง มีนโยบายที่เปิดใหม่ ที่น่าสนใจ หลายนโยบาย ได้แก่ 1.เด็กแรกเกิด ถึง 3 ปี เดือนละ 6,000 บาท 2.เงินเดือนนักเรียนขั้นบันได ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมตอนต้น มัธยมตอนปลาย ลดภาระผู้ปกครอง 3.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร 4.ยกเลิกทหารชั้นนายพล ไม่มีการรัฐประหาร 5.เรียนฟรีปริญญาตรี มีเงินเดือน 10,000 บาท ไม่เป็นภาระผู้ปกครอง
6.หนึ่งตำบล 1ทุนฟรี 1 ปริญญาเอก 7.เพิ่มเงินเดือนข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง 30 เปอร์เซ็นต์จากฐานเงินเดือน
8.กองทุนชุมชน 30 ล้านบาท ทุกหมู่บ้าน ประชาชนทุกครัวเรือนเข้าถึงสินเชื่อ ไม่มีดอกเบี้ย 9.ประกันสุขภาพฟรี รักษาฟรีทั้ง รพ.รัฐและเอกชน ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 10.ฟอกไตฟรี 11.มารดาพลัง 24 ชั่วโมง แอพพลิเคชั่นเชื่อมระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ประจำ รพ.สต.และโรงพยาบาลอำเภอ/จังหวัด 12.เพิ่มค่าตอบแทน อสม.5,000 บาทต่อเดือน 13.ผลักดันตั้งกระทรวงสตรีและเยาวชน 14.ผลักดันตั้งกระทรวงยาเสพติดและสารพิษ 15.ปราบยาเสพติด ยกเลิกกัญชาเสรี
16.ประกันข้าวเปลือกทุกเมล็ด 30,000 ต่อ/ตัน 17.ประกันราคายางพารา 120 บาทต่อ/กิโลกรัม 18.พักหนี้และปลอดดอกเบี้ยเกษตรกร 5 ปี 19.บำนาญผู้สูงอายุ เกิน 60 ไม่จำกัดอายุ 10,000 บาทต่อเดือน ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน 20.โฉนดที่ดินม้าทองคำ ที่ดินทุกแปลงไม่มีเอกสารสิทธิ์ ต้องออกโฉนดที่ดินและมีทุนทำกิน 21.ประมงพื้นบ้าน จับสัตว์น้ำ ไร้ข้อจำกัด 22.ลดราคาน้ำมันทุกชนิด 25 บาทต่อลิตร ประชาชนต้องใช้ราคาน้ำมันไม่แพง 23.ยกเลิกกฎหมายบางฉบับไม่เป็นธรรม ล้าสมัย และ24.ยกเลิกระบบการเรียนสามัญ เน้นสายอาชีพ จบมามีงานทำ เป็นต้น
สำหรับการเสนอตัวแข่งขันแคนดิเดตหัวหน้าพรรค ในที่ประชุมมีการหยั่งเสียงก่อนลงคะแนน โดยแข่งขันกันดุเดือด โดยผลการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคพลังทั้งประเทศเทคะแนนเป็นเอกฉันท์ นายลิขสิทธิ์ ใสกระจ่าง คว้าที่นั่งหัวหน้าพรรคพลัง ซึ่งเป็นทายาททางการเมือง และน้องชาย ร้อยเอก ดร.กุเทพ ใสกระจ่าง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษหลายสมัย
โดยนายลิขสิทธิ์ ชื่อเดิม “วิสิทธิ์ ใสกระจ่าง” มีประสบการณ์ทางการเมือง เคยนั่งฝ่ายการเมืองสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและตำแหน่งอื่นๆ ส่วนผลการเลือกตั้ง ดร.ชัยยพล พสุรัตน์บรรจง คว้านั่งตำแหน่งเลขาธิการพรรค แม่บ้านพรรคคนสำคัญที่จะนำพาพรรคไปสู่สนามเลือกตั้ง ดร.สาวิทย์ หลาบมาลา โฆษกพรรค นาวาอากาศเอกพิเศษกมล ธรรมพิทักษ์ นายทะเบียนพรรค นายภูษิต มิ่งขวัญ เหรัญญิกพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรค ได้แก่ รองหัวหน้าพรรค จำนวน 8 คน ได้แก่ นายณัฎฐพล เจริญพล นายภาณุวัฒน์ เอกพลกุล พันตำรวจเอกพงศ์ชัย พลแก้ว นายธานี ปัญจะ ดร.ประสพ ทองอินทร์ นายประดิษฐ สมพล รศ.ดร.ทัศนีย์ ลักขณาภิชนชัช และนางสาวอมรทิพย์ ภูระย้า ส่วนกรรมการบริหารอื่น ได้แก่ ร.ต.อ.อัครเดชา พรรณนานนท์ นายพร ศิวิลัย นายชัชชัย ด้วงพิทักษ์ และนายบุญฤทธิ์ ขวัญชุม ในการผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลัง
โดยสมาชิกโหวตเลือกให้ บิ๊กณัฎฐ์”ณัฐวุฒิ. วงศ์เนียม” มือกฎหมายมหาชนคนดัง คว้าที่นั่งเก้าอี้สำคัญ ตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ส.ตามกฎหมายพรรคการเมืองที่แก้ไขใหม่ และที่ประชุมโหวตให้นั่ง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งจะเป็นผู้นำธง ปักธงที่นั่ง ส.ส.ทุกภาคทั่วประเทศ
โดย “บิ๊กณัฎฐ์”และแกนนำพรรคได้แถลงนโยบายของพรรคพลังอย่างดุเดือดเผ็ดมันและยืนยันว่าสามารถทำได้ หากนโยบายไหนเกี่ยวข้องกับการเงิน ตามมาตรา 57 พรรคการเมือง สามารถชี้แจง ที่มาของรายได้ต่อ กกต. นับจากนี้ พรรคจะปูพรมตั้งตัวแทนประจำจังหวัดและคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อส่งผู้สมัคร ส.ส.แข่งขันทุกเขตเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลัง เป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่เมื่อวันที่ 10 ต.ค.65 ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งสาขาภาคครบถ้วนตามเงื่อนไข กกต. พร้อมจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัดหลายจังหวัด เพิ่มสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองและเริ่มเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในเขตต่างๆ โดยในงานมีการปราศรัยใหญ่ครั้งแรก เพื่อปักธง ส.ส.คว้าที่นั่งทุกภาคของประเทศ




