ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก "กอบศักดิ์ ภูตระกูล" ระบุว่า 

ใหญ่เกินไป ที่จะปล่อยให้ล้ม !!!! สบายใจได้ไปแล้ว 1 ทางการสวิสบังคับขาย Credit Suisse ให้กับคู่แข่ง UBS จบประวัติศาสตร์ของธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกที่เคยมีอายุ 167 ปี จบบทของการแข่งขันระหว่าง 2 ธนาคาร ที่ขับเคี่ยวแย่งชิงการเป็นเบอร์ 1 ของสวิสมาโดยตลอด ไม่ให้ผู้ถือหุ้นของ Credit Suisse โหวตว่า พอใจหรือไม่ในราคา 3,250 ล้านดอลลาร์ หมายความว่า มูลค่าของ CS ได้ลดลงอย่างน่าใจหาย 97% จากที่เคยอยู่สูงสุดที่ 90,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2007 โดยให้แลกหุ้น 1 USB ต่อ 22.48 CS

ธนาคารกลางสวิส บอกว่า “เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะสร้างและรักษาความมั่นใจของทุกคนในระบบการเงินสวิส และบริหารความเสี่ยงความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ”  ทั้งนี้ในข้อตกลง

1.ทางการจะรับความเสียหาย (หากมี) ให้กับ UBS จำนวน 9,600 ล้านดอลลาร์ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นเกินกว่า 5,400 ล้านดอลลาร์

2.ธนาคารทั้งสอง สามารถเข้าถึงสภาพคล่องจากธนาคารกลางสวิสโดยไม่มีข้อจำกัด (unrestricted access) ตามที่กำหนดไว้ใน Guidelines on Monetary Policy Instruments

3.ธนาคารกลางสวิสจะจัดสินเชื่อเสริมสภาพคล่องไว้ให้ CS และ UBS (หากต้องการ) อีก 110,000 ล้านดอลลาร์

4.FINMA ผู้กำกับสถาบันการเงินของสวิสบอกว่า จะไม่จ่ายเงินคืนให้กับหุ้นกู้จำนวน 17,270 ล้านดอลลาร์ของ Credit Suisse เพื่อให้นักลงทุนรับภาระของการช่วยเหลือครั้งนี้ไปบางส่วน

นับเป็นการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและครอบคลุมของทางการสวิส เพื่อควบคุมให้สถานการณ์ไม่ลุกลามไปกว่านี้ เพราะสุดท้ายแล้ว ธนาคารในสวิส ได้สร้างชื่อในใจคนว่าเป็น “ธนาคารพาณิชย์ที่ดีสุดของโลก” ที่ทุกคนมั่นใจได้ เอาเงินมาฝากไว้ได้ ถ้าปล่อยให้ล่วงเลยไปกว่านี้ ก็จะสายเกินการณ์ นับเป็นอีกแบงค์ยักษ์ที่ล่มในยุค Perfect Storm !!!

นอกจากนี้ ทางออกในรูปแบบนี้ ยังเป็นทางออกที่ให้สิ่งที่ Credit Suisse สร้างขึ้นมา ลูกค้าที่มีสัมพันธ์กันยาวนาน ยังคงอยู่ในมือของธนาคารจากสวิสต่อไป มาตามลุ้นกันต่อไปครับว่า ยังมีอะไรรอเราอยู่อีกในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 2 ของวิกฤต Perfect Storm

#มุมมองดรกอบ #PerfectStorm #CreditSuisse