เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 18 มี.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุวิต โพธิ์แก้ว อายุ 60 ปี และน.ส รัฐนันท์ โพธิ์แก้ว อายุ 30 ปี
สองพ่อลูก ว่าถูกการไฟฟ้าเรียกปรับเงินจำนวน 34,500 บาทซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะถูกกล่าวหาว่าทำการเปลี่ยนแปลงหม้อมิเตอร์ ขนาด 15 แอมป์ ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นคนทำดัดแปลงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่หมู่บ้านกรุงไทย บ้านเลขที่ 9/74 ต.เนินพระ อเมือง จ.ระยอง บ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้น พบนายสุวิต โพธิ์แก้ว อายุ 60 ปีอาชีพขับ 10 ล้อและน.ส รัฐนันท์ โพธิ์แก้ว อายุ 30 ปี อาชีพอิสสระ สองพ่อลูก นำหลักฐานบิลค่าไฟฟ้าแต่ละเดือน และหนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือขอผ่อนชำระหนี้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาให้ดู 10 เดือน
นายสุวิต โพธิ์แก้ว บอกว่า ตนเองมีอาชีพขับรถ 10 ล้อรับจ้าง ส่วนลูกสาว ทำงานอิสระ เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่กำลังขับรถ มีโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าจะขอเข้ามาตรวจหม้อมิเตอร์ที่บ้าน ตนเองจึงบอกว่าไม่อยู่บ้านแต่ว่ามีลูกสาวอยู่จากนั้นเขาก็วางสายไป ซึ่งตอนนั้นก็ยังเอะใจว่าเขามีเบอร์โทรศัพท์เราได้อย่างไรและรู้จักชื่อเราได้อย่างไร ก็ยังสอบถามไปเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าที่โทรมาบอกว่ามีชื่อและเบอร์โทรจากฐานข้อมูลต่อมาจึงได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสำรวจหม้อมิเตอร์แล้วแจ้งว่า มีการดัดแปลงหม้อมิเตอร์ซึ่งจะต้องแก้ไขให้ และนำไปสู่การถูกปรับจำนวน 34,500 บาท ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรกับหม้อมิเตอร์เลยตั้งแต่ซื้อบ้านหลังนี้มา 5 ปี ก็จ่ายค่าไฟฟ้าพันกว่าบาท ทุกเดือนที่บ้านอยู่กัน 3 คน มีแอร์ 2 ตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆปกติ หากมีความผิดปกติเรื่องค่าไฟฟ้า ก็น่าจะแจ้งเตือนมานานแล้ว อีกทั้งที่หม้อมิเตอร์ก็ไม่มีร่องรอยการแกะแต่อย่างใด ดังนั้นการไฟฟ้ามายัดข้อหาให้แบบนี้จึงไม่เป็นธรรม
ด้าน น.ส รัฐนันท์ บอกว่า วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาด้วยกัน 3 คน ตรวจที่มิเตอร์หน้าบ้านแล้วก็บอกว่า มีการสลับสาย แก้ไขให้เป็นปกติ จากนั้นก็ให้เซ็นรับทราบว่ามีเจ้าหน้าที่มาทำการแก้ไขแล้วและเจ้าหน้าที่ยังบอกให้ไปที่สำนักงานการไฟฟ้าซึ่งตนเองก็เดินทางไป เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานไฟฟ้าแจ้งว่าจะต้องมีการเสียค่าปรับโทษฐานดัดแปลงหม้อไฟซึ่งตนเองได้ยืนยันว่าไม่เคยทำ และไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ยืนยันให้จ่ายค่าปรับจำนวน 34,500 บาท หากไม่เซ็นต์ยินยอมก็จะถูกตัดไฟในวันรุ่งขึ้นตนจึงต้องจำยอมเซ็นรับสภาพเพื่อไม่ให้ถูกตัดไฟ โดยขอผ่อนจ่าย 10 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่านอกจากค่าปรับ 34,500 บาท แล้วยังจะมีค่าไฟฟ้าในส่วนต่างที่ใช้มาแต่ละเดือนอีกด้วยซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นจำนวนเงินอีกเท่าไหร่ ทำให้ตนและพ่อรู้สึกเสียใจ ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนเองและพ่อไม่ได้เป็นคนทำ และต้องมาเป็นหนี้ ทุกวันนี้ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ หากต้องมาจ่ายเงินในความผิดที่ไม่ได้ก่อ ก็รู้สึกเสียใจมากอยากขอความเป็นธรรม เอาเงินที่เสียค่าปรับไปคืนมา