ตำรวจสามพรานสนธิ สืบจังหวัดนครปฐม สืบภาค 7 ตามรวบตัวคนร้ายแต่งกายเป็นบุรุษไปรษณีย์ หลังก่อเหตุบุกจี้ชิงทองคำจากพนักงานในพื้นที่อำเภอสามพรานเจ้าตัวสารภาพก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบ6 หมื่น  เช๊คประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง 


เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566เวลา พ.ต.อ.พงษกร อุพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก..จว.นครปฐม, พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ทรงวุฒิเจริญวิชยเดช , พ.ต.อ.ภาณุทัศ เหลืองสัจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมชุดคลี่คลายคดี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการติดตามจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุแต่งกายอำพรางเป็นบุรุษไปรษณีย์เข้าจี้ชิงทางจากร้านขายทอง ในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 

โดยการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหานายธีรพล  อายุ 40 ปี 359 /40 ถ.อิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกออกน้อย กรุงเทพ ฯเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน ลักษณะเป็นพลาสติกสีเขียวดำ ลักษณะคล้ายปืนกล็อก จำนวน 1 กระบอกเสื้อคลุมแขนยาวสีแดงดำ (เสื้อคลุมไปรษณีย์ไทย) จำนวน 1 ตัวเสื้อคลุมแขนยาวสำแดงขาว จำนวน 1 ตัวกางเกงวอร์มสีดำ จำนวน 1 ตัว หมวกนิรภัยสีแดงคาดขาว (หมวกนิรภัยไปรษณีย์ไทย) จำนวน 1 ใบถุงมือสีดำ จำนวน 1 คู่หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบแว่นตา จำนวน 1 อันรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ชิตี สีดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน

พ.ต.อ.พงษกร อุพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่า การบุกรวบตัวคนร้ายรายนี้  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 เวลาประมาณ 13.20 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งเหตุพยายามชิงทรัพย์บริเวณร้านทอง ห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ท่าตลาด อ.สามพรานจ.นครปฐม เหตุเกิดเวลาประมาณ13.05 คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย รูปร่างผอมสูง สวมเสื้อคลุมสีแดง ซึ่งเป็นเสื้อคลุมของไปรษณีย์ไทย ใส่หมวกนิรภัยชนิดเต็มใบสีแดงซึ่งเป็นหมวกนิรภัยของไปรษณีย์ไทย ใส่กางเกงวอร์มสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ใช้อาวุธปืน พกสั้น (จากภาพวงจรปิดเป็นชนิดกึ่งออโตเมติก) ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ เป็นอาวุธใช้ก่อเหตุ 


จากตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่าหลังเกิดเหตุ คนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นชิตี้ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้ารถ หมายเลขทะเบียน น่าน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง เป็นยานพาหนะหลบหนี (จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าแผ่นป้ายทะเบียนปลอม)จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในเส้นทางของคนร้ายทราบว่าเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 19.53 น. พบว่าคนร้ายขับรถยนต์ฮอนด้า รุ่นชิตี้ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน (แต่ยังไม่สามารถระบุหมายเลขทะเบียนได้ ขับอยู่บริเวณเส้นทางเพชรเกษม หมู่ที่ 1 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐมเวลาประมาณ 19.54 น. พบว่าคนร้ายเลี้ยวช้ายเข้าเส้นทางมุ่งหน้าถนนเข้าอำเภอสามพราน


จากนั้นคนร้ายได้กลับรถยนต์บริเวณยูเทิร์นหน้าโรงงานมาลี จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวขวาเข้าชอยโรงเรียนสามพรานวิทยา (สุขาภิบาล 10 ) เวลาประมาณ 19.56 น. (ซึ่งบริเวณดังกล่าวสามารถจับภาพทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวได้ โดยพบว่าเป็นทะเบียน  1 กย 306 กรุงเทพมหานคร) จากนั้นได้มุ่งหน้าเข้าไปภายในซอยซึ่งอยู่ก่อนถึงโรงเรียนสามพรานวิทยา โดยเชื่อว่าคนร้ายได้จอดรถประมาณ 7 นาทีเวลา 10.03 น. ต่อมาปรากฏภาพว่าคนร้ายได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว โดยติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้าเป็นทะเบียน น่าน ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนหลังไม่ติดแผ่นป้าย จากนั้นค้นร้ายได้ขับออกจากซอย และกลับรถบริเวณทางแยกสามพราน มุ่งหน้าไปยังที่ทำการไปรษณีย์อำเภอสามพราน

ทีมสืบสวนได้ทำการหาข้อมูลจนทราบว่าคนร้ายไปพักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งย่านพรานนก ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ ฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งพบรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ชิตี สีดำ หมายเลขทะเบียน  กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ที่บริเวณที่จอดรถ จากการสอบถามพยานแวดล้อม (ไม่ประสงค์แจ้งชื่อสกุล) ที่พักในอาคารเดียวกันทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าว มีนายธีรพล ใช้รถยนต์คันดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวและใช้อยู่เป็นประจำ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในวันที่ 16 มีนาคม 2566 พบเห็นนายธีรพล ฯ ขับรถยนต์ออกจากคอนโดช่วงเวลาเกือบ 08.00 น. และขับ
รถยนต์กลับเข้ามาช่วงเวลา 24.00 น.และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมนายธีรพล ไว้ได้ที่บริเวณคอนโดมิเนียม ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ ฯ ซึ่งภายหลังการ พูดคุยนายธีรพล ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายธีรพล ให้เหตุผลที่ก่อเหตุว่ามาจากตนเองเป็นหนี้นอกระบบ ประมาณ 60,000 บาท

สำหรับประวัติคดีอาญาผู้ต้องหานายธีรพล พบประวัติการกระทำผิด 2 คดี ลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ท้องที่รับผิดชอบสน.จักรวรรดิ ร้านทอง สาขาถนนมังกร โดยทำท่าทีขอดูสร้อยข้อมือทองคำโดยเจาะจงขอดูลายทองที่เตรียมมาในโทรศัพท์มือถือ เมื่อพนักงานนำสร้อยข้อมือทองคำดังกล่าวมาให้เลือกดู จึงฉวยโอกาสสลับสร้อยข้อมือแท้ของทางร้านทองไป และเอาสร้อยข้อมือของปลอมมาไว้แทนที่ลักทรัพย์

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ท้องที่รับผิดชอบสน.ประเวศ สาขาอ่อนนุช 59 โดยทำท่าทีขอดูสร้อยข้อมือทองคำโดยเจาะจงขอดูลายทองที่เตรียมมาในโทรศัพท์มือถือ เมื่อพนักงานนำสร้อยข้อมือทองคำดังกล่าวมาให้เลือกดู จึงฉวยโอกาสสลับสร้อยข้อมือแท้ของทางร้านทองไป และเอาสร้อยข้อมือของปลอมมาวางไว้แทนที่โดยการก่อเหตุทั้ง 2 พื้นที่นั้นใช้กลอุบายเดียวกันโดยการนำทองปลอมมาสลับกับทองจริงของทางร้าน