ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในทีมโครงการนักสืบฝุ่นของ กทม. เปิดเผยว่า หากจะวัดค่าเฉพาะ PM2.5 สามารถทำได้ แต่เนื่องจากตัวฝุ่นปลิวมากับสายลมซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ ทั้งจากเครื่องยนต์และการเผาชีวมวล ดังนั้นการเผาไหม้ 1 ครั้ง ไม่ได้ก่อ PM2.5 อย่างเดียว แต่ยังก่อสารพิษต่างๆประกอบด้วย จึงต้องวัดค่าโดยรวมในอากาศทั้งหมดเท่าที่อุปกรณ์เครื่องมือจะทำได้ เรียกว่า ค่า AQI (Air Quality Index) คือ ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงระดับมลพิษในอากาศของแต่ละพื้นที่
ดร.ศักดา ตรีเดช ผู้อำนวยการส่วนนวัตกรรมคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ วัดค่ามลพิษทั้งหมด 6 ชนิด เพื่อรวบรวมเป็นค่า AQI หนึ่งค่า ประกอบด้วย
1.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด
2.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เป็นฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การเผาในที่โล่ง กระบวนการอุตสาหกรรม การบด การโม่ หรือการทําให้เป็นผงจากการก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากเมื่อหายใจเข้าไปสามารถเข้าไปสะสมในระบบทางเดินหายใจ
3.ก๊าซโอโซน (O3) เป็นก๊าซที่ไม่มีสีหรือมีสีฟ้าอ่อน มีกลิ่นฉุน ละลายน้ำได้เล็กน้อย เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับบรรยากาศชั้นที่สูงจากผิวโลก และระดับชั้นบรรยากาศผิวโลกที่ใกล้พื้นดิน ก๊าซโอโซนที่เป็นสารมลพิษทางอากาศคือก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศผิวโลก เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายโดยมีแสงแดดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยก่อให้เกิดการระคายเคืองตาและระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและเยื่อบุต่างๆ ความสามารถในการทำงานของปอดลดลง เหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง
4.ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี กลิ่น และรส เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ ก๊าซนี้สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้โดยจะไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้ดีกว่าออกซิเจนประมาณ 200-250 เท่า เมื่อหายใจเข้าไปทำให้ก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งจับกับฮีโมโกลบินในเลือด เกิดเป็นคาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (CoHb) ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายลดน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย และหัวใจทำงานหนักขึ้น
5.ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและกลิ่น ละลายน้ำได้เล็กน้อย มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ อุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น ก๊าซนี้มีผลต่อระบบการมองเห็นและผู้ที่มีอาการหอบหืดหรือ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
6.ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ มีรสและกลิ่นที่ระดับความเข้มข้นสูง เกิดจากธรรมชาติและการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถัน (ซัลเฟอร์) เป็นส่วนประกอบ สามารถละลายน้ำได้ดี สามารถรวมตัวกับสารมลพิษอื่นแล้วก่อตัวเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ ก๊าซนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับเป็นเวลานานๆ จะทำให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้
ดร.ศักดา กล่าวว่า การรายงานค่า PM2.5 เพียงอย่างเดียว หรือดูค่า PM2.5 เพียงอย่างเดียว อาจไม่เกิดประโยชน์ต่อการป้องกันแก้ไขคุณภาพอากาศในระยะยาว รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ เพราะยังมีสารก่ออันตรายต่อสุขภาพอื่นๆ ที่มองไม่เห็น ประชาชนควรดูค่า AQI เป็นหลัก ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับสี ประกอบด้วย
1.สีฟ้า หมายถึง คุณภาพอากาศดีมาก ค่าระหว่าง 0-25 AQI เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยว
2.สีเขียว หมายถึง คุณภาพอากาศดี ค่าระหว่าง 26-50 AQI สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ
3.สีเหลือง หมายถึง คุณภาพอากาศปานกลาง ค่าระหว่าง 51-100 AQI ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบากระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งลง
4.สีส้ม หมายถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าระหว่าง 101-200 AQI ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งลง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ส่วนผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบากตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นผิดปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์
5.สีแดง หมายถึง มีผลกระทบสุขภาพ ค่า 201 AQI ขึ้นไป ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์