ถอดบทเรียน “สารวัตรคลั่ง” เพื่อนบ้านไม่เชื่อผิดหวังเรื่องรัก เผยดื่มเบียร์ 9 ขวดในวันเดียว เชื่อคับแค้นใจถูกย้ายงาน
กรณีชายรายหนึ่งคลุ้มคลั่งกราดยิง บริเวณบ้านมั่นคง ซ.จิระมะกร เขตสายไหม ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นตร. ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง สว.ศูนย์พัฒนาด้านการข่าวสันติบาล เพิ่งย้ายมาจากวิทยาลัยการศึกษา บช.ศ. โดยก่อนหน้านี้ พบมีอาการทางจิต ต้นสังกัดจึงให้เพื่อนข้าราชการตำรวจเตรียมพาตัวไปรักษา แต่เมื่อไปถึงพบมีอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 15 มี.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ ป้าอ้น,ป้านี กรรมการหมู่บ้านที่ผู้ก่อเหตุยิง , เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รวมทั้ง ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา พฤติกรรม จิตเวชศาสตร์ และการบริหารงานยุติธรรม ม.มหิดล
ล่าสุดชาร์ตตัวได้เรียบร้อย ป้าอ้นรู้จักตร.นายนี้มั้ย?
ป้าอ้น : ก็รู้จักในนามที่เขาเป็นลูกค้า มาซื้อของเช้าเย็น เขามาเป็นประจำทุกเช้าทุกเย็น เขาอยู่ที่นี่น่าจะก่อนโควิด ประมาณ 3 ปี ก็คุ้นเคยกัน เพราะเป็นลูกค้ามาซื้อของประจำ ปกติอัธยาศัยดีมาก น่ารักด้วย เวลาเขาเห็นเด็กๆ มาซื้อของในร้าน เขาจะไม่ให้เด็กจ่ายตังค์ เขาจะเป็นคนจ่ายให้เสมอ จ่ายให้เด็กในหมู่บ้านทุกคน
แกก็น่ารักคนนึง?
ป้าอ้น : น่ารัก นิสัยดีมากเลยค่ะ
ป้านีก็รู้จัก มีพฤติกรรมอะไรทำให้เราผิดสังเกตมั้ย?
ป้านี : ไม่มีอาการบอกเลยว่าเขาจะมีอาการแบบนี้
ล่าสุดเจอเมื่อไหร่?
ป้านี : 2 อาทิตย์ที่แล้วค่ะ
ป้าอ้นมีอะไรผิดสังเกตมั้ย?
ป้าอ้น : หลังๆ ครั้งสุดท้ายที่เขามา วันที่เขาใส่ชุดเครื่องแบบ ปกติเขาไปนอกเครื่องแบบ ก็ถามว่าทำไมวันนี้ใส่เครื่องแบบคะ เขาบอกว่าย้ายไปเป็นสันติบาล ตำแหน่งใหม่ จากแกรับตำแหน่งใหม่ ปกติแกทานเบียร์ 2 ขวดต่อวัน แต่หลังจากวันนั้น โห จาก 2 มา 3 จาก 3 มา 6 ในวันเดียวกัน ก่อนแกจะหายไปไม่ได้มาที่ร้าน น่าจะประมาณ 6-9 ขวดในวันเดียวกัน แกซื้อช้างไป 3 ขวด ก็เปลี่ยนมาเป็นลีโอ เปลี่ยนเป็นเบียร์สิงห์ ไม่ได้เอาชนิดเดียวกันใน 9 ขวด แกบอกว่าเปลี่ยนบ้างให้มันหลายรสชาติหน่อย ก็ถามว่าป๋าเครียดเหรอ ทำไมดื่มจังเลย เราก็คุยล้อเล่น แกก็พูดว่าเดี๋ยวก็ตายแล้ว เดี๋ยวไปอยู่ดาวอังคารกันหมดแล้ว โลกนี้เป็นของพระเจ้า เราก็คิดว่าแกเมา อีกส่วนก็คิดว่าจิตแกคงไปเพราะฤทธิ์เบียร์
จากนั้นยังไงต่อ?
ป้าอ้น : จากนั้นแกก็ไม่มา เวลาแกขับรถสวนก็ไม่เคยทัก จากที่แกเคยทัก แกเหมือนตาขวางๆ พูดอยู่คนเดียวเวลาขับรถ มีครั้งนึงแฟนจะไปส่งของในหมู่บ้าน แกก็ถามว่ามึงเป็นพวกสันติบาลเหรอ แฟนเลยบอกว่าอ้น ไม่ไหวแล้ว ทำไมตาขวางๆ ขอบตาดำ ก็สังเกตว่ามีพฤติกรรมแบบนั้นมา แล้วเสียงก็เริ่มดังขึ้น แกจะคลั่ง หรือออกอาการอาละวาด หรือพูดคนเดียวกลางถนน กลางค่ำกลางคืนมีร้องเพลงแหกปากอยู่ในบ้านก็มี
ประเด็นวันที่เกิดเหตุ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น?
ป้าอ้น : ร้านอยู่ใกล้ๆ แก เมื่อวานมีเพื่อนแกมาหาที่ร้าน ถามว่าพี่แกได้ออกมาทานข้าวมั้ย ก็บอกว่าไม่ได้ออกมาเลยประมาณอาทิตย์นึงแล้ว เขาบอกว่าพอดี ผมจะพาเพื่อนไปหาหมอ ก็เดินไปดู เคาะประตูเรียกเพื่อน พอเพื่อนออกมาก็บอกว่ามึงพกปืนมาด้วยเหรอ เขามองจากกระจกบานเกล็ด ตอนแรกเห็นคนเดียว ทีนี้พอเขามองจากกระจกเขาจับท่าเหมือนเหน็บปืน สารวัตรก็บอกว่ามึงเอาปืนมาสู้กับกูเหรอ ได้เลย ทีนี้เขาเห็นว่าเพื่อนที่มานำเจ้าหน้าที่มาอีกสามนาย เขาก็ยิ่งเครียด ก็ยิงสวนออกมา
นั่นคือนัดแรกที่ยิงออกมา?
ป้าอ้น : ค่ะ หลังจากนั้นก็มีปั้งๆ แล้วเพื่อนเขา พี่ด้วยก็หลบ เขาออกมาตามถนน ออกมายืนด่า
หลังแกยิงไปนัดแรก แกก็ออกมาด่าแบบนี้ ตอนนั้นเพื่อนบ้านทำยังไงกัน?
ป้าอ้น : ก็หลบกัน สักพักมีเจ้าหน้าที่หลายชุดเข้ามาไวมาก พยายามเข้าไปเจรจา
พี่เอกได้รับแจ้งยังไงเรื่องนี้?
เอกภพ : เมื่อวานนี้รับแจ้งจากประธานชุมชน แจ้งเข้ามาว่ามีตร.คลั่ง ใช้อาวุธปืนยิงกลางถนน กลางชุมชน ผมเลยประสานเจ้าหน้าที่ตร. และเอาทีมงานไปดู อันดับแรกเราห่วงคนในชุมชนมากกว่า จริงๆ แล้วเวลาผมไปชุมชน ผมก็เคยเจอพี่เขานะก่อนหน้านี้ เขาเป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส คนในชุมชนก็รู้จักเขา แต่ด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบได้เมื่อวานมีอาการคลุ้มคลั่งสร้างความหวาดกลัว ก็พยายามให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย กู้ภัยสยามรวมใจ กู้ภัยทุกชุด พยายามกันคนก่อน เจ้าหน้าที่ตร.สน.สายไหม จริงๆ เข้าถึงเร็วนะครับ แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนถามว่าทำไมถึงล่าช้า เพราะเป็นตร.หรือเปล่า ผมมองว่าการเข้าถึงจุดบ้านมั่นคง มันเข้าถึงยาก เป็นลักษณะเข้าออกทางเดียว ข้างหลังเข้าไม่ได้ เข้าออกได้ทางหน้าอย่างเดียว เป็นยุทธวิธีของเขาที่ได้เปรียบมากกว่า
ฝั่งผู้ก่อเหตุได้เปรียบ?
เอกภพ : ครับ และตรงนั้นเป็นแหล่งชุมชน เมื่อวานตอนเจ้าหน้าที่ตร.ใช้แก๊สน้ำตา ลมมันพัดแรง ปรากฏว่าคนที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไป 500 เมตร รถมอเตอร์ไซค์ล้มหมดเลย แก๊สผ่านถนนแล้วคนขับมอเตอร์ไซค์เขาไม่รู้เรื่อง ผ่านมาเสร็จโดนแก๊สล้มหมดเลย ต้องล้างหน้าล้างตา ก็กระทบโดยวงกว้าง
เพราะอะไร ในเมื่อพี่เอกก็อยู่ในที่เกิดเหตุตลอด ทำไมตร.ไม่บุกตั้งแต่แรก?
เอกภพ : หลายคนก็ตั้งคำถามนี้ แต่พอไปดูหน้างานจริงๆ มันไม่ง่าย พอผู้ก่อเหตุรู้ยุทธวิธี พอใช้แก๊สน้ำตา เขาก็ขึ้นไปชั้น 2 แล้วหายใจออกทางหน้าต่างด้านหลัง ซึ่งหน้าต่างด้านหลังอากาศถ่ายเทได้ เขาฉลาด พอเขาได้ยินเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเขาก็ยิงสกัดออกมาก่อน ซึ่งก็อันตรายมาก เขาอยู่ในจุดที่เขาได้เปรียบ แค่เขาส่องไปทางประตู ก็เรียบร้อย หรือชั้น 2 ก็เป็นบานเกล็ด การเข้าก็เข้าได้ยาก เขาอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ
พอคนร้ายอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ ทำให้ล่าช้าออกไป?
เอกภพ : ถ้าจะไม่ให้ล่าช้าต้องใช้ความรุนแรง พูดกันตรงๆ นะ
แล้วทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรก สุดท้ายก็ต้องจบด้วยความรุนแรงอยู่ดี?
เอกภพ : ผมเข้าใจว่าตร.ไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย หนึ่งเขาไม่มีตัวประกันในบ้าน สองมีการกันคนออกจากพื้นที่ได้แล้ว เมื่อคืนท่านผู้บัญชาการนครบาล รวมถึงท่านรองต่อศักดิ์ ท่านก็บัญชาการด้วยตนเอง ทั้งคืน เอาคนออกจากตรงนั้นก่อน ผมก็ให้เจ้าหน้าที่อาสาทุกชุดช่วยกันกันคนออกมา พอปลอดภัยปุ๊บก็เข้าปฏิบัติการอีกครั้ง ถ้าใช้ความรุนแรงสูญเสียแน่นอน แต่เมื่อเช้าเขามีการยิงตอบโต้ โดนหมวกเจ้าหน้าที่ ก็คงมีการใช้มาตรการที่เด็ดขาด เลยเกิดเหตุการณ์ตอนเที่ยง
ลักษณะเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด ชาวบ้านเดือดร้อนมาก?
ป้าอ้น : มีคนแก่ คนป่วย คนติดเตียง
ป้านี : แม่แฟนป่วยติดเตียงอยู่ ตอนเขายิงแก๊สน้ำตา เจ้าหน้าที่แนะนำให้เอาผ้าขนหนูเปียกน้ำโปะหน้าแม่ไว้ ถ้าไม่ออกจากบ้าน แต่ทีนี้มันไม่ไหว รอมันซาถึงได้ย้ายแม่ออกจากบ้าน หนูนำแม่ไปบ้านอีกหลังนึง เป็นบ้านของลูกสาว และคนป่วยติดเตียงอีกคนเป็นผู้ชาย ก็พาไปไว้ที่เดียวกันค่ะ ให้ไปพักที่นั่นคืนนึง มีเด็กเล็กเข้าบ้านไม่ได้ ร้องกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด
ไม่ได้หลับนอนกันเลย?
เอกภพ : นอนไม่ได้ เพราะแก๊สกระจายเต็มพื้นที่ แล้วแสบตาไปหมด
ป้าอ้น : ช่องเล็กช่องน้อยก็เข้าหมด
ยุทธวิธีก็เป็นไปตามกระบวนการ จากเบาไปหาหนัก เริ่มจากเจรจา ยิงแก๊สน้ำตา จากนั้นเชิญเพื่อนสนิทผู้ก่อเหตุให้มาคุย เขาตะโกนว่าไม่อยากคุยกับมึง คนใกล้ชิดผู้ก่อเหตุมาเกลี้ยกล่อมก็ไม่จบ ตอนเช้าวันนี้ร้องเพลงเกลี้ยกล่อม?
ป้านี : และมีเสียงสวดมนต์ ตร.สวดค่ะ เขาร้องเพลงไปประมาณ 5-6 เพลงก็สวดต่อ
ป้าอ้น : เขาร้องเพลงในแนวตร.ร่วมรุ่นด้วยกัน ที่ระลึกถึง
ร้องเพลงพบรักที่ปากน้ำโพ , จดหมายจากแนวหน้า , หลวงพ่อรวย หลายเพลง ใครร้อง?
ป้าอ้น : ตร.ร้อง
เขาจะยิ่งโมโหมั้ย?
เอกภพ : ผู้ก่อเหตุชอบฟังเพลงนี้ครับ แต่เขาด่าออกมาว่ามึงไม่ต้องร้องแล้ว
เขาบอกคนมีอาการทางจิต ไม่นอนได้นานแค่ไหน?
ตฤณ : 30 เดือนครับ
เพื่อนบ้านบอกว่าแกเป็นคนดีมาก น่ารักมาก?
ป้าอ้น : ใช่ค่ะ เป็นคนดี น่ารัก เห็นเด็กแล้วจะใจอ่อนกับเด็กๆ ยิ่งสัตว์เลี้ยงนะ ใครมีแมว แกยังเอาอาหารแมวมาให้ ฝากให้แมวด้วย
แต่เมื่อกี้พี่เอกได้ข้อมูลมายังไง?
เอกภพ : จากที่ได้ถามกู้ภัยในทีมที่อยู่จุดนั้น ทราบว่าแกถูกยิงอาจเสียชีวิตตั้งแต่ตอนอยู่ที่เกิดเหตุแล้ว เพราะตอนนำตัวขึ้นรถพยาบาล ทำซีพีอาร์เพื่อปั้มหัวใจ เพราะหัวใจแกหยุดเต้น ตอนนี้โอกาสเสียชีวิตสูงมาก ก็อยากให้แกหายแล้วกลับมารักษา ส่วนความผิดต่างๆ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย อีกมุมอยากให้ดูเรื่องความเครียด จากข้อมูลที่ได้มา แกเครียดเพราะถูกย้ายตร. จากที่แกอยู่บช.ศ. ทำงานสืบสวน พอถูกย้ายงานมาอยู่สันติบาล อาจเปลี่ยนหน้างานไปเลย อย่างที่ป้าบอก พอแกถูกย้ายงาน พฤติการณ์แกก็เปลี่ยนไป
ฝั่งตร.และเพื่อนตร. หลายท่านบอกว่าแกมีประเด็นเรื่องความรัก?
ป้าอ้น : คิดว่าไม่น่าใช่ แกคงไม่คิดจะรักใคร ในชั่วโมงที่สัมผัส จากการที่พูดคุยกับแก
ช่วงที่มีโดรนบินขึ้นไป ถ่ายภาพสารวัตรตอนอยู่ในห้อง เจอวัตถุอันนึงวางอยู่ข้างห้อง ลักษณะเหมือนท่อพีวีซี สีฟ้า หลายคนตั้งคำถามว่าท่อน้ำทิ้งหรือท่ออะไร แต่หลายคนเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มองว่าเป็นเหมือนบ้องกัญชา หลายคนก็มองว่าอาจเป็นไปได้มั้ย เสพแล้วหลอน อาจารย์ในฐานะนักอาชญาวิทยา มองยังไง?
ตฤณห์ : เรื่องกัญชาเสพแล้วเห็นภาพหลอนเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่แยกเรื่องจิตเวชก่อน เขามีการรักษาอาการจิตเวชมาก่อนอยู่แล้ว อาการจิตเวชของคนเป็นจิตเภท เท่าที่เห็นลักษณะการเดินหรือคลุ้มคลั่ง น่าจะเป็นประเภทโรคจิตเภท หรือ Schizophrenia ที่พบได้ 1 ใน 100 ของคนทั่วไป หากสืบประวัติย้อนไปจากเครือญาติใกล้ชิดใน 100 คนจะพบ 1 คนที่เป็นจิตเภทเหมือนกัน และถ้าสืบสาวลงไปก็จะพบว่ามีมากถึง 8 คน ในเจนเนอเรอชั่น
นี่เชิงวิชาการเลย ดูไว้จะได้รู้ เป็นอุทาหรณ์ด้วย?
ตฤณห์ : โรคิจิตเภทจะเกิดมาก เริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 14-15 เป็นต้นไป ผู้ชายจะพบอายุน้อยกว่าผู้หญิง จากนั้นถ้าหมดเกณฑ์อายุนี้ไปแล้ว เกิน 45 ขึ้นไป เริ่มเป็นผู้สูงอายุก็เป็นโรคนี้ อาจไม่ได้เกี่ยวกับกรรมพันธุ์ อยู่ดีๆ เป็นเลยก็ได้ อยู่ที่ทางกายภาพของสมองของเรา แต่พอเป็นแล้ว คนใกล้ตัวต้องสังเกตอาการ เขาจะมีท่าทีแปลกไป มันจะมีระยะเริ่มต้นอาการและระยะกำเริบ ภาพที่เราเห็นเมื่อวานเป็นระยะกำเริบ มีความรุนแรง มีการพูดจาไม่รู้เรื่อง อาจใช้ถ้อยคำหยาบคาย ไม่อาบน้ำ ทำอะไรไม่มีเหตุผล การเชื่อถือผีสาง หรือพูดถึงพระเจ้า ก็เป็นหนึ่งในอาการที่คนมีอาการจิตเภทจะมี ถ้าเราลองติดตามข่าว เกือบทุกคนจะอ้างพระเจ้าที่เอามีดไปแทงคนอื่น อ้างว่าเป็นการบูชายัญ นี่คืออาการระยะเริ่มต้นของอาการกำเริบ สเต็ปแรกเป็นอาการหลงผิด ที่เขาเชื่อว่าตายไปจะไปอยู่ดาวอังคาร อันนี้ก็เริ่มเป็นไซน์ของอาการ
สำรวจคนรอบข้างและตัวเอง ถ้ามีใครพฤติกรรมแบบนี้ให้ระแวดระวังและพาไปรักษา?
ตฤณห์ : ใช่ครับ ถ้าระยะเริ่มต้น เราค้นพบ หากกำเริบแบบนี้ สมมติครั้งแรกที่เขากำเริบ รักษาด้วยการกินยา ปรับสารเคมีในสมอง ถ้าคลุ้มคลั่งครั้งแรกและรักษาเลย จะรักษาประมาณ 1 ปี และอาการดีขึ้นเกือบเป็นปกติ แต่ถ้าคลุ้มคลั่งสองครั้ง จะใช้เวลากินยาไปด้วย และทำพฤติกรรมบำบัด ประมาณ 5 ปี ถึงจะหาย แต่ถ้าปล่อยให้มีการคลุ้มคลั่งและไม่รักษา ถึงจับมาได้แล้ว ถึงเขาไม่เสียชีวิตก็ต้องรักษาตลอดชีวิต ซึ่งการป้องกันจะง่ายกว่าการแก้ไข ฉะนั้นหากเราเริ่มสังเกตคนใกล้ตัวเริ่มมีพฤติกรรมแปลกใจ ระยะเริ่มต้นเขาจะสะสมพวกพระเครื่อง เชื่อเรื่องเวทมนตร์ มีใครส่งคลื่นไฟฟ้ามาที่บ้านเขา ทำให้เขาชีวิตไม่ดี จะเป็นสเต็ปๆ ไป
ผู้ก่อเหตุ ดูเหมือนแกไม่มีอาการเหนื่อยล้าเลย เหมือนอะเลิศ รู้วิธีการยิงแก๊สน้ำตา แกก็เก่ง เรี่ยวแรงแกยังไง?
ตฤณห์ : สมองเรามันมหัศจรรย์มาก มันสามารถควบคุมร่างกายได้ เหมือนใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เหมือนเวลาไฟไหม้แล้วเราสามารถแบกตู้เย็นออกจากบ้านได้ เป็นการใช้เอนเนอร์จี้ แบบนี้คือโดปามีน ผิดปกติ ทำให้ไม่หลับ ไม่นอน ไม่ง่วง ไม่หิว
คนมีอาการทางจิต มีโอกาสไม่นอนถึง 30 เดือน เรื่องจริงเหรอ?
ตฤณห์ : คนธรรมดา สามารถไม่หลับเลยได้ 3-4 วัน ต้องบอกตร. หรืออาสาเป็นความรู้ ถ้าคนคลุ้มคลั่งแล้วเขาไม่ทำอันตรายใคร แล้วเขาโดนล็อก ปล่อยไว้ 3-4 วัน ให้เขาอ่อนลงได้ แต่ในรายที่มนุษย์ปกติตื่นโดยไม่ใช้กาแฟได้นานเท่าไหร่ คำตอบคือ 11 วัน อาจมีหลับในบ้างเป็นนาที หลับในคือยังลืมตาอยู่ คนทั่วไปได้ 8-10 แต่มากสุดคือ 11 ถ้ามีภาวะทางจิต FFI สามารถตื่นโดยไม่หลับเลยระหว่าง 6 เดือนถึง 30 เดือน และจะเสียชีวิต เพราะร่างกาย อวัยวะภายในล้มเหลว สมองไม่ได้หลับไม่ได้นอน เราอาจไม่หิวด้วย แต่พอเขาเสียชีวิตสาเหตุนี้ คนจะไม่ไปค้นคว้าว่าสาเหตุที่เสียชีวิตไม่ได้เกิดจาก FFI ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าไม่ใช่โรคทางจิต
ที่เห็นเป็นท่อสีฟ้าๆ อนุมานได้มั้ยว่าเป็นบ้องกัญชา ถ้าเสพกัญชาไปด้วย ร่วมกับที่เขาเป็นอยู่ จะเป็นยังไง?
ตฤณห์ : คนเป็นจิตเวช มีอัตราทำร้ายร่างกายคนอื่นอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง จะไม่ทำร้ายใคร อยู่กับตัวเองปกติ หัวเราะ พูดคนเดียว ไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้ามีตัวอื่นกระตุ้น อย่างแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติด เคสนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นอย่างนึงที่ทำให้อาการก้าวร้าวกำเริบขึ้น ถ้าอนุมานว่าเป็นบ้องกัญชา กัญชาบวกเหล้าบวกจิตเวช คือหนักขั้นสุดเลยครับ
พี่เอกคิดว่าใช่มั้ย?
เอกภพ : ไม่น่าจะพลาด ดูแล้วน่าจะเป็นกัญชา ผมอยากให้มองหลายมุม ไปดูคำพูดพี่สารวัตรท่านนี้แกออกมาพูดหน้าบ้าน ก็อยากให้ถอดเรื่องนี้ด้วย ที่แกบอกว่ามีตร. มีเพื่อนร่วมงาน ใครขายยาบ้าง ไปถอดเรื่องนี้ที่แกพูดด้วย ถ้าจริงก็เป็นเรื่องใหญ่นะ เพราะสิ่งที่แกออกมาพูด อาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ เป็นความเครียดของแก ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
สิ่งที่แกพูดเหมือนด่าตร.ด้วยกัน ว่าลูกหลานติดยาเสพติด เพราะพวกมึงนี่แหละ?
เอกภพ : สอบถามจากคนในหมู่บ้าน แกเป็นคนอัธยาศัยดีและเป็นคนตรงไปตรงมา
ป้าอ้น : แกเคยพูดเรื่องนี้ ว่ามีเจ้าหน้าที่ ตอนแรกคิดว่าแกพูดเรื่อยเปื่อย แต่แกพูดย้ำอยู่เรื่อยๆ
ป้านี : เขาบอกว่าเขาเป็นแกะดำอยู่ในบช.ศ.
เอกภพ : เมื่อก่อนแกอยู่บช.ศ. แกก็เล่าให้ชาวบ้านฟังว่าเพื่อนร่วมงานของแกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ แล้วแกไม่โอเค แกก็พยายามต่อต้านเพื่อนร่วมงาน สุดท้ายแกถูกย้าย แกก็เลยฝังใจ ปกติข้อมูลเพื่อนบ้าน แกดื่มเบียร์วันละ 2 ขวด แต่พอถูกย้ายก็ดื่มวัน 7 ขวด ก็เห็นได้ชัดว่าแกมีอาการเครียด หลายคนก็เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องงาน
มุมนึงมองว่าเป็นไปได้คือเกิดปัญหาจากที่ทำงาน มีแรงกดดันจากเพื่อนร่วมงาน ที่รู้สึกว่าทำไม่ถูกไม่ควร แล้วแกถูกย้ายไป อีกมุมเพื่อนสนิทแกก็บอกว่ามีเรื่องความรัก เหมือนแกไม่สมหวังในความรัก แกไปรักผู้หญิงคนนึงอายุน่าจะน้อยกว่า อาจจะหลายๆ อย่าง?
ตฤณห์ : เป็นไปได้ ความคิด ความเครียดผู้ก่อเหตุ จำเป็นต้องถามจากคนใกล้ชิด ซึ่งเขาไม่มีครอบครัว เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานอาจไม่ได้รู้ดีเท่าเพื่อนสนิท ถ้าเพื่อนสนิทบอกแบบนี้ก็มีน้ำหนัก เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่จะไปกระตุ้นหรือกดดันจิตใจผู้ก่อเหตุ
จิตเวช กับจิตเภทต่างกันยังไง?
ตฤณห์ : จิตเวชคือการป่วยทางด้านจิตใจ ซึ่งหมายถึงสมอง ความคิด ความรู้สึก การที่เรานอนไม่หลับ เป็นไบโพลาร์ ซึมเศร้า น้ำหนักมากขึ้นหรือน้อยไป กินมากขึ้นหรือน้อยไป ทุกอย่างเป็นทางจิตเวชหมดเลย ส่วนจิตเภท คือโรคทางจิต น่าจะเป็นแบบที่เราเห็นในข่าว คือ Schizophrenia จิตเวชมีเป็นพันโรค นอนไม่หลับ กลัวที่สูง กลัวที่แคบ จิตตก สมองเสื่อม ไบโพลาร์ อันไซเมอร์ แต่โรคจิตเภท คือคนโรคจิต เหมือนไปแทนซึมเศร้า มันเป็นชื่อโรค ที่คลุ้มคลั่งเอามีดไปไล่แทงคนอื่น ที่คิดว่าบูชายัญ พระเจ้า อันนี้คือจิตเภท จิตเวชคือคลุมทุกอย่าง มีเป็นพันโรค อาการสารวัตรท่านนี้น่าจะเป็นจิตเภทครับ
เอกภพ : แจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่รพ. บอกว่าปั้มหัวใจขึ้นมาได้แล้ว อยู่รพ.ภูมิพล แต่ชีพจรยังอ่อนมาก อยู่ในอาการวิกฤตอยู่
เมื่อกี้พี่ฟังแล้วใจพี่เป็นยังไง?
ป้าอ้น : สงสารแก แกมีจิตใจที่ดี ไม่อยากให้เป็นอะไร
ป้านี : เหมือนกันค่ะ คนเคยคุยกัน แกพูดจาดี พูดจาเพราะ นอบน้อม พอเห็นแกเจออาการแบบนี้..
สองท่านไม่เชื่อเรื่องความรัก?
ป้าอ้น-ป้านี : ไม่เชื่อ
ไม่เชื่อว่าแอบหลงรักเด็กผู้หญิง?
ป้าอ้น : ไม่เชื่อค่ะ แกไม่มีสายตาหรือแววตาอะไรแบบนั้น เหมือนเวลาเราเจอผู้ใหญ่บางคน แกไม่มีแววตาแบบนั้น
อยู่ในสายกับ “พ.ต.อ. วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร” อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ / เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เรื่องของปืนวันนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว เวลาอยู่นอกเวลาราชการ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เขาก็พกปืนติดตัวตลอดเวลา พี่มองยังไง?
พ.ต.อ. วิรุตม์ : มันเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐต้องแก้ไข หลังจากเหตุหนองบังลำภู ท่านนายกฯ ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้อยู่ระยะนึง แล้วก็ให้นโยบายไปทางมหาดไทย แล้วก็เงียบไป ไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวอะไรที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อนไปเรื่องพกปืน อยากคุยเรื่องสารวัตรคนนี้ ที่บอกเขาคลั่งๆ สังคมต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาคลั่งเพราะอะไร ถ้าดูตามที่เขาพูด เขาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ โดยเฉพาะฟังจากคุณป้าเพื่อนบ้าน แกไม่ได้เป็นคนบ้ามาก่อน แต่ผมเชื่อว่าแกคับแค้นใจหลังถูกย้าย เราต้องค้นหาความจริงเหล่านี้ เราไม่สามารถหาได้จากตร.ผู้ใหญ่หรือตร.หรอกครับ เพราะเขาพูดความเท็จตลอด พูดตรงไปตรงมาเลย เหมือนที่จ่าที่โคราช เขาคลั่งก็เกิดจากความคับแค้น พฤติกรรมการคลั่งของเขามีสาเหตุจากความคับแค้นใจ การที่เขาถูกย้ายงาน มีที่มาที่ไปอย่างไร เราต้องค้นหาความจริงที่ตร.ผู้ใหญ่พยายามปกปิด ซึ่งมีตร.เยอะแยะที่ตกอยู่ในสภาพนี้
มุมเรื่องปืน ต้องทำยังไงต่อไป?
พ.ต.อ. วิรุตม์ : เรื่องปืนเป็นนโยบายของรัฐที่ต้องจัดการ แล้วมีคนรับผิดชอบ ทำเป็นเรื่องเป็นราว แต่ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะหมดวาระนายกฯ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ปืนในมือผู้ร้าย ยังไม่อันตรายเท่าปืนในมือตร. เพราะปืนในมือผู้ร้ายยังไงก็ผิดกฎหมาย แต่ปืนในมือตร. หลายส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ผิดกฎหมาย แต่ก็พกพาโดยไม่ผิดกฎหมาย การพกปืนต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน จะพกพาอาวุธปืนได้ก็ต่อเมื่อมีตำแหน่งหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และพกเปิดเผย เช่นตร.เป็นสายตรวจ พกปืนเปิดเผย ถูกต้อง แต่เมื่อคุณพ้นจากเวร ออกเวรแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์พกนะ เพราะไม่มีหน้าที่แล้ว แต่มีตร.ผู้ใหญ่โง่ๆ บอกว่าโอ้ย ตร.มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรียบร้อย ขอย้ำนะ ตร.ผู้ใหญ่โง่ๆ บอกตร.ทุกคนมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย 24 ชม.ในประเทศไทย คุณหนุ่มคิดว่ามันจริงเหรอ มันไม่จริงอยู่แล้ว ตร.ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ตร.โรงพักเอง ก็ไม่ได้มีหน้าที่ทุกคน บางคนทำการเงิน ทำเสมียน ไม่มีหน้าที่จับผู้ร้ายโดยตรง ฉะนั้นพอมีหน้าที่ ถ้าเขาไม่ทำหน้าที่ก็มีความผิด ตร.แพทย์ พยาบาล มีหน้าที่จับผู้ร้ายเหรอ ไม่มีนะ แต่ก็พูดมั่วว่าผมเจอเหตุต้องระงับเหตุ คุณระงับเหตุ เหมือนคุณหนุ่มไปเจอเหตุ ก็ช่วยระงับเหตุในฐานะพลเมืองดี ก็เท่านั้นเอง แต่คนมีหน้าที่จริงๆ เขาต้องมีปืน เช่นสายตรวจ มีคำสั่งให้เข้าเวร อยู่ในพื้นที่ แต่ตร.ส่วนใหญ่ตอนนี้ไม่มีใบอนุญาตให้พกปืนนะ แต่พกได้เพราะเขาเข้าใจผิด ตร.ผู้ใหญ่เองก็เข้าใจผิดว่ามีสิทธิ์พกปืนทั่วไป อย่างสารวัตรคนนี้ อยู่สภาพใดก็แล้วแต่ แกก็ต้องถูกดำเนินคดี พกพาอาวุธปืน การพกมาเดินถนนหนทางก็ผิดแล้ว
ถ้าจะแนะนำตอนนี้ จะแนะนำยังไงดี ฝ่ายไหนส่วนไหนที่เกี่ยวข้อง จะแก้ไขได้ ว่าตร.นอกราชการไม่ควรพกปืน?
พ.ต.อ. วิรุตม์ : ไม่ใช่ไม่ควร ไม่มีอำนาจในการพกปืน เรื่องนี้ต้องเริ่มจากผบ.ตร. ต้องมีหนังสือสั่งการชัดเจน ว่าการพกพาอาวุธปืนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน และให้พิจารณาลงโทษ ตรวจสอบ ดำเนินการกับตร.ที่ฝ่าฝืน คุณอยู่กองคดี พกปืนไปทำงานทำไม พกปืนไปปราบใคร ผมว่ามันผิดกฎหมาย ปัญหาว่าตร.ไม่จับกัน มั่วไปหมด พอเกิดเรื่องก็ค่อยว่ากันเป็นเรื่องๆ ไป คนไม่มีความจริงใจ มันแก้อะไรไม่ได้หรอกครับ มันไม่แก้จริง การพกปืนผิดกฎหมายเป็นอำนาจอย่างนึง พกปืนกันทั่วไป คุณเป็นตร.สงขลา พกปืนไปเชียงใหม่ มีสิทธิ์อะไรถึงพก ไปปราบอะไร ต้องคุยกันยาวครับ
พี่เอกมองยังไง?
เอกภพ : ผมเห็นด้วยกับท่านนิรุตม์ ท่านอธิบายได้เห็นภาพ เจ้าหน้าที่ตร. เวลาปฏิบัติหน้าที่พกได้ เพราะถ้าเกิดเหตุปุ๊บ ชาวบ้านโทร 191 อยู่แล้ว จะให้สายตรวจ หรือสายสืบออกไประงับเหตุ แต่พอพ้นเวรแล้วควรคืนปืน หรือถ้าเป็นปืนส่วนตัวก็ต้องไว้ที่ห้อง เวลาท่านออกไปแล้วไปดื่มเหล้า พอมีแอลกอฮอล์เข้าไป ตร.ก็คน มีโอกาสขาดสติเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบเคียงพี่สารวัตร อาจต้องผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงอาจทราบอยู่แล้วหรือไม่อย่างไรว่าพี่เขามีอาการแบบนี้ อาจต้องดูหรือเก็บอาวุธปืนเขาก่อนเป็นสิ่งแรกด้วยนะครับ อันนี้สำคัญ
อยากฝากเตือนอะไร?
ตฤณห์ : ความเครียดเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่บางคนมองว่าความเครียดของคนในครอบครัวเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวก็ผ่านไป ไม่มองเป็นเรื่องหนักหนาหรือซีเรียส โดยเฉพาะในที่ทำงาน เจ้านายลูกน้องควรมีสัมพันธ์อันดี ถึงขั้นเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพ การแสดงออก ต้องสังเกตเห็นได้ชัด เราต้องเทคแอ็กชั่น ไม่ใช่พักงาน หรือปกติเป็นข้าราชการหรือหน่วยงานใดๆ ก็แล้วแต่ ถ้ามีอาการทางจิตเวชปุ๊บเขาจะย้ายให้ไปอยู่ในหน่วยที่ไม่ต้องพบปะผู้คน หรือไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับคน อันนี้ก็เหมือนกัน ต้นสังกัดน่าจะย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องพบปะประชาชน หรือมีปฏิสัมพันธ์กับใคร อาจทำงานเอกสาร แต่ถ้ามีอาการทางจิตมาเกี่ยวข้อง ความรุนแรงพร้อมปะทุทุกเมื่อ เพราะคนมีอาการทางจิต จะคาดเดาด้านอารมณ์ไม่ได้ จะมีคำว่ากำเริบขึ้น ควรยึดอาวุธไว้ชั่วคราว จนกว่าจะรักษาตัวเสร็จสิ้นกระบวนการ หรือมีใบรับรองแพทย์ว่าสามารถใช้ชีวิตได้ปกติหรือใกล้เคียงกับปกติ กลับไปทำงานเหมือนเดิมได้ แต่ถ้าคนปกติอย่างคนในครอบครัว หากมีอาการกินมากไป กินน้อยไป หรือนอนไม่หลับ 3 วันต่อสัปดาห์ขึ้นไป ก็มีแนวโน้มมีปัญหาโรคเครียด พอมีความกดดันทางจิตใจ ทั้งพ่อแม่ว่าเกรดไม่ดี โดนเจ้านายด่า เล่นการพนันสูญเสียเงินจำนวนมาก ทุกอย่างสามารถทำให้มนุษย์เราเครียดได้หมดเลย เงิน 1 พันบาทอาจไม่เครียดสำหรับเรา แต่อาจเครียดกับคนอื่น หรือมอเตอร์ไซค์หายไป ทำให้เขาเครียดจนเกิดอาการพวกนี้ได้ ฉะนั้นคนรู้ดีที่สุดต้องเป็นคนใกล้ชิด และต้องไม่ปล่อยผ่าน เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับคนๆ นึง เขาไม่ปกติแล้วนะครับ เมื่อความป่วยมาครอบงำ จากที่เคยสุภาพ ใจดี เคยน่ารักกับพวกเรา ตอนที่เขาไม่มีสติ ก็ไม่ใช่ตัวเขาที่เรารู้จัก ถือว่าเขาเป็นคนป่วย เราก็ต้องรับมือแบบคนป่วย ขอฝากให้ดูแลคนใกล้ชิดครับ สังเกตอาการ
เอกภพ : อยากขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์นี้ไม่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์สูญเสีย ขอบคุณตร.ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 20 กว่าชั่วโมง คุณหมอ พยาบาล น้องๆ ทีมอาสาทุกท่าน ที่ร่วมด้วยช่วยกัน ชาวบ้านทุกคนที่อยู่ในชุมชน ที่ร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี ทำให้วิกฤตครั้งนี้ผ่านไปได้
ตฤณห์ : อาการทางจิต คนไทยตอนนี้เดินมา 10 คน มีปัญหาสุขภาพจิต 2 คน 20 เปอร์เซ็นต์ อยากให้ทุกคนมองว่าการเข้าไปหาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่ควรทำด้วยซ้ำ ต่างประเทศทุกคนจะมีจิตแพทย์ประจำตัว แต่ด้วยทัศนคติคนไทยมองว่าการไปหาจิตแพทย์ เราจะเป็นคนบ้าหรือเปล่า ร่างกายก็สำคัญ แต่จิตใจก็สำคัญ มันไม่มีแผลออกมาให้เราเห็น
เห็นด้วยกับอาจารย์ที่อยากให้ไปหาจิตแพทย์ แต่บางทีเขาไม่มีเงิน ชาวบ้านพอไปพบจิตแพทย์ ต้องใช้บัตร 30 บาท แพทย์ก็ไม่มี ต้องแก้ในบริบทภาครัฐด้วย?
ตฤณห์ : ปัญหาแบบนี้ทำให้ผมรวมกับเพื่อนเปิดคลินิก สำหรับผู้ยากไร้ให้คำปรึกษาฟรีวันละ 5 ราย ตอนนี้คลินิกยังไม่เสร็จ แต่รับปรึกษาทางออนไลน์ ชื่อแฮปปี้ มี คลิกนิก เข้ามาที่เพจผมก็ได้ และให้ติดต่อเข้ามา
เห็นด้วยกับการที่คนเราต้องปรึกษาสุขภาพจิต เอาง่ายๆ แค่เราดูเรื่องนี้ สิ่งที่ดูอยู่ จะฝังในจิตใต้สำนึก วันนึงอาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบก็ได้ อาจเป็นจิตใต้สำนึกของคุณที่หยิบมาใช้ ผมเคยเป็นมาแล้ว เมื่อก่อนผมไม่ชอบด่าอะไรที่รุนแรง พอผมทำรายการโหนกระแส ผมเจอคนเยอะแยะมากมาย ปีนึงสองคนสองฝ่ายมีประเด็นด่ากันไปด่ากันมา ผมจำวิธีการหมดนะ โดยผมไม่รู้ตัว คนนั้นทำแบบนี้ คนนี้ใช้วิธีการแบบนั้น ผมคิดว่าผมปล่อยได้หมด สุดท้ายผมปวดหัวนอนไม่ได้ เหมือนมีคนมาคุยงุ้งงิ้งๆ จนสุดท้ายผมไม่ไหว ผมไปปรึกษาจิตแพทย์ จิตแพทย์บอกว่าโชคดีที่มาหาไม่งั้นจะหนักกว่านี้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในจิตใต้สำนึกของผม สมมติวันนึงผมโกรธพี่เอก จากที่ผมไม่คิดจะใช้วิธีแบบนี้ ผมจะไปเอาสิ่งที่เคยจำในจิตใต้สำนึกมาใช้?
เอกภพ : อันตรายเหมือนกันนะ
อย่าไปคิดว่าแน่ ปล่อยได้ บางทีเรื่องพวกนี้อยู่ในจิตสำนึก มีโอกาสก็ลองไปปรึกษาดู แล้ววอนภาครัฐ ถ้าสามารถให้คนไทยเข้าถึงจิตแพทย์ได้ง่ายมากขึ้น จะดีมากๆ?
ตฤณห์ : มันเป็นอาชีพขาดแคลนครับ ในประเทศไทยมีจิตแพทย์รวมกันแล้วไม่ถึง 1 พันคนครับ จิตแพทย์เด็กมีประมาณ 400 ไม่ถึงพัน อย่างนักโทษในเรือนจำเป็นประชากรที่ต้องพบจิตแพทย์มากที่สุด แต่ในเรือนจำไม่มีจิตแพทย์นะครับ จิตแพทย์ 1 คน อาจต้องรับผิดชอบ 4 เรือนจำ อาจไม่มีจิตแพทย์เลยก็ได้ เป็นนักจิตวิทยาแทน ควรเป็นหน่วยงานที่มีจิตแพทย์ด้วยซ้ำ
เอกภพ : ตอนนี้แจ้งจากน้องกู้ภัย สารวัตรปลอดภัยแล้วครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนครับ