"รมว.เกษตรฯ" เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศและสัตว์น้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมขยายผลต่อยอดการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างเงินสร้างรายได้แก่พี่น้องชาวประมงในพื้นที่อย่างยั่งยืน

วันที่ 15 มี.ค.66 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน “ต่อยอด และการพัฒนาด้านประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม” ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตด้านประมงในเขตจังหวัดสมุทรสงคราม ณ ลานอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ ม.2 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งโครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการขยายผลการพัฒนาอาชีพด้านประมงของจังหวัดให้มีทรัพยากรเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานภาครัฐในการสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มผลิตด้านการประมง ด้วยการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและมีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนาด้านการประมงของทะเลฝั่งอ่าวไทยอีกแห่งหนึ่ง แต่จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรในพื้นที่ ประกอบกับปริมาณสัตว์น้ำในธรรมชาติลดจำนวนลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม จังหวัดสมุทรสงครามถือเป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญหลากหลายชนิด ได้แก่ กุ้งทะเล ปูทะเล และสัตว์น้ำที่จับจากทะเลชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะปลาทูที่มีความนิยมในการบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ สามารถสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในจังหวัด และสร้างรายได้อย่างมากในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน เป็นที่มาของการจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติด้วยการปล่อยพันธุ์กุ้งทะเล เป็นการขยายผลการพัฒนาอาชีพด้านประมงของจังหวัดให้มีทรัพยากรเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มผลิตด้านการประมง สนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่นในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน เกิดการสร้างเครือข่ายและพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชน ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรและชาวประมงอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต

"การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมาให้กำลังใจพี่น้องชาวประมงในการเตรียมรับโอกาสที่เราสามารถผ่านวิกฤตโควิด-19 มาได้ ซึ่งภาคการเกษตรโดยเฉพาะการผลิตอาหารมีบทบาทสำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าต่าง ๆ ให้พี่น้องเกษตรกรได้ วันนี้จึงได้พาผู้บริหารมาเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ทั้งในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำเน่า หรือลำคลองตื้นเขิน ทำให้การเลี้ยงสัตว์น้ำของพี่น้องเกษตรกรมีปัญหา สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยในส่วนของพี่น้องชาวประมงมี Fisherman shop เป็นอีกหนึ่งแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพี้น้องชาวประมง นอกจากนี้ ยังมีเงินอุดหนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มประมงท้องถิ่น ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถให้ได้ครบทุกกลุ่ม แต่กระทรวงเกษตรฯ ก็จะเข้ามารับฟังปัญหาเพื่อแก้ไขให้ตรงจุดอย่างแน่นอน" ดร.เฉลิมชัย กล่าว

ด้าน นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดแนวทางการสร้างเศรษฐกิจ สังคม และการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรประมง โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืน กรมประมงจึงได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มผลิตด้านการประมง กำหนดจัดงาน “ต่อยอด และการพัฒนาด้านประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม” ขึ้น ฃซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมปล่อยกุ้งกุลาดำจำนวน 1,500,000 ตัว และมอบพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ผู้นำชุมชนทั้งหมด 10 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนตำบลบางจะเกร็ง ตำบลคลองโคน ตำบลบางแก้ว ตำบลลาดใหญ่ ตำบลแหลมใหญ่ ตำบลบางยี่สาร และตำบลแพรกหนามแดงอีก 4 ชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ เป็นการสร้างฐานทรัพยากรเพื่อการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และมีส่วนในการขยายผลและต่อยอดการพัฒนาอาชีพด้านประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมกันนี้ ยังมีการมอบเงินอุดหนุนโครงการให้แก่องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแก่ชุมชนกลุ่มตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ยายแพงบางคนที และชุมชนกลุ่มอาหารทะเลตากแห้ง จำนวน 200,000 บาท และมอบหนังสือรับรองคุณภาพมาตรฐาน GAP แปลงใหญ่มะพร้าวแก่เกษตรกร จำนวน 5 ราย และมอบพันธุ์พืชแก่ผู้นำชุมชน จำนวน 6 ราย รวมถึงมีการจัดนิทรรศการถ่ายทอดองค์ความรู้จากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร ในพื้นที่อีกด้วย