ปลัดเกษตรฯ Kick Off โครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรโดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน

วันที่ 14 มี.ค.66 นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดตัวโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรโดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี โดยรับฟังการบรรยายโครงการแผนงานปรับตัวบรรเทาผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 10 ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี จากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการแผนงาน/กิจกรรมการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของเกษตรกร พร้อมทั้งมอบพันธุ์ผัก บริเวณแปลงสาธิตการปลูกผัก และปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียน บริเวณจุดสาธิตการเลี้ยงปลา ณ องค์การบริหารส่วนตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี

สำหรับโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตร โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีระยะเวลาดำเนินการช่วงเดือนมีนาคม-ธันวาคม 2566 นำศาสตร์พระราชามาแก้ไขฟื้นฟูหลังน้ำท่วม สร้างแหล่งอาหารให้คนและสัตว์ พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งนำพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “สืบสาน รักษา ต่อยอด” มาพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งโครงการนำร่องนี้ จะมีการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฏีและฝึกปฏิบัติ ให้ความรู้เชิงบูรณาการผสมผสานการเรียนรู้จากพื้นที่จริง อีกทั้งจะเป็นการจุดประกายความคิดที่จะสามารถนำผลสำเร็จของโครงการฯ ไปใช้ในพื้นที่อุทกภัยอื่นได้ การขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าว มาจากความต้องการของชุมชน โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมวางแผนการดำเนินงาน สนับสนุนปัจจัยการผลิต และถ่ายทอดองค์ความรู้โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ ตลอดจนเชื่อมโยงทางการตลาดให้กับชุมชนให้เกิดประโยชน์และเห็นผลเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว จะสามารถแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรและให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพ ทำให้มีแหล่งสำรองอาหารชุมชนได้อย่างพอเพียง มีการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมาตรฐานการผลิตด้านการเกษตร และการบริหารจัดการการใช้น้ำ เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ระหว่างที่ประสบอุทกภัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ เป็นภูมิคุ้มกันรองรับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งเสริมการพัฒนาผลิตภาพทางการเกษตร

ทั้งนี้ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีพื้นที่ทำการเกษตร จำนวน 272,349 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 80.15 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นพื้นที่นา 200,830 ไร่ พื้นที่ไม้ผล/ไม้ยืนต้น 4,665 ไร่ พืชไร่/พืชผัก 37,875 ไร่ และเกษตรอื่น ๆ 28,979 ไร่ โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา อำเภอบ้านหมี่ถูกประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยฯ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 ตำบล 73 หมู่บ้าน มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 10 ตำบล 70 หมู่บ้าน กระทรวงเกษตรฯ จึงได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยดำเนินการอพยพสัตว์ จัดทีมสัตวแพทย์ จัดส่งมอบยาเวชภัณฑ์ และถุงยังชีพปศุสัตว์ รวมถึงทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลพบุรี ยังเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เตรียมความพร้อมในด้านปัจจัยการผลิต ทั้งการสนับสนุนพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ข้าว และพันธุ์สัตว์ด้วย

“กระทรวงเกษตรฯ มุ่งมั่นที่จะให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยภาครัฐจะเข้าไปสนับสนุนด้านความรู้ เทคโนโลยี หรืองานวิจัย เพื่อมาพัฒนาแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือการพัฒนาแบบองค์รวม โดยสนับสนุนให้ผู้สูงอายุหรือผู้ว่างงานมาทำ และถ่ายทอดความรู้ต่อกันในชุมชน อาทิ การปลูกพริก การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง โดยมีการจัดทำแปลงสาธิต เพื่อแก้ไขโรครากเน่าและโคนเน่าในพริก เป็นต้น ซึ่งการดำเนินโครงการนำร่องในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นพื้นที่ต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ นำไปเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ต่อไป” นายประยูร กล่าว