ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้(14 มี.ค.)ที่ 1,523.89 จุด ลดลง 49.18 จุด (-3.13%) มูลค่าการซื้อขาย 103,833.09 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลง ทำจุดต่ำสุด 1,572.36 จุด และแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,518.66 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 295 หลักทรัพย์ ลดลง 1,554 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 196 หลักทรัพย์

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งลงหนักถึง 50 จุดเป็นไปตาม Sentiment ตลาดหุ้นเอเชีย จากนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสุทธิหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ จากความกังวลกรณีธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ในสหรัฐล้ม อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงินในเอเชีย และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่คืนนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาสูงกว่าคาดอาจเป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ    

โดยแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนีมีโอกาสปรับลงต่อหลังหลุดแนวรับสำคัญ 1,550 จุดลงมามาก บวกกับ Sentiment ตลาดยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด จึงต้องไปติดตามกันต่อในการประชุมเฟดวันที่ 22 มี.ค.66 อีกทั้งปัจจุบันทางเทคนิคยังไม่เห็นสัญญาณซื้อด้วย   ให้แนวรับไว้ที่ 1,517 จุด ซึ่งเคยเป็น Low ต่ำสุดของเดือนก.ค.65 แนวรับถัดไป 1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,550 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,897.31 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,101.55 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,488.77 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,329.40 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,959.92 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.50 บาท