กลุ่มเครือข่ายประชาชนยโสธร ยื่นหนังสือกกต. ขอใช้รูปแบบเดิมในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.

วันที่ 13 มี.ค.66 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงาน กกต.จังหวัดยโสธรกลุ่มเครือข่ายประชาชนยโสธรกว่า 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอใช้รูปแบบเดิมในการแบ่งเขตการเลือกตั้ง ส.ส.ภายหลัง กกต.จังหวัดยโสธรได้แบ่งเขตการใหม่จำนวน 3 รูปแบบเพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นและเครือขายประชาชนยโสธรจึงร่วมกันเดินทางมายื่นหนังสือ กกต.ยืนยันขอใช้รูปแบบการแบ่งเขตการเลือกตั้ง ส.ส.รูปแบบเดิมโดยก่อนยื่นหนังสือ นายสุกาย สุริยโรจน์ แกนนำได้อ่านแถลงการว่าตามที่คณะครรมการการเลือกตั้ง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโตธร ได้ออกประกาศ การแบ่งเขตเลือกตั้งพร้อมเชิญชวน ให้ประชาชนพิจารณา ให้แสดงความคิดเห็น 3 รูปแบบ ที่ กกต.ยโตธรนำเสนอได้นั้นเครื่อข่ายประชาชนฯ ขอแจ้งจุดยืนความคิดเห็นข้อเสนอแนะ ข้อเรียกร้องแก่ กกต.ว่า 1.จำนวน ส.ส.จังหวัดยโสธรไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ลด ไม่เพิ่มคงเดิม และเขตเลือกตั้งเดิม คือรูปเบบเคิมที่ใช้มา 4 ปี ไม่มีปัญหา

2.จากรูปแบบเขตเลือกตั้ง ส.ส.ยโสธร 3 รูปแบบ A.B.C ที่ กกต.ยโสธร นำเสนอเผยแพร่ แก่ประชาชน ทั้งรูปแบบ ล้วนผ่านเกณฑ์พื้นฐาน ที่ กกต.กำหนด ทั้งสิ้น เช่น เรื่องพื้นที่ติดกัน ประชากรใกล้เคียง ความเป็นชุมชนใกล้เคียงกัน และการคมนาคมสะดวก 3.กลุ่มเครือข่ายประชาชนฯ ขอเสนอแนะ ให้ กกต.และกกต.ยโสธร เพิ่มดัชนีชี้วัดความเหมาะสมของการแบ่งเลือกตั้ง เพิ่มเติม มาประกอบการพิจารณาเลือกรูปแบบเขตเลือกตั้ง กล่าวคือ ให้กำหนดผลกระทบต่อประชาชนทุกภาคส่วน , ความยุ่งยากและเพิ่มภาระงานอันเนื่องมาจากการแบ่งเขตเลือกตั้ง, งบประมาณและเวลาที่ต้องเสียไปในการประชาสัมพันธ์เรื่องเขดเลือกตั้ง และเรื่องความเป็นธรรม ยุดิธรรมต่อนักการเมือง พรรคการเมือง ทุกฝ่าย

4.เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน รูปแบบ A คือเขตเลือกตั้งเดิม ที่ไม่สร้างผลกระทบใดๆไม่สร้างความยุ่งยากแก่ประชาชน ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่เพิ่มภาระงานแก่ เจ้าหน้าที่ กกต.และบุคลากรภาคส่วนอื่นที่จะต้องมาช่วยงานการเลือกตั้งให้ความเป็นธรรม ยุติธรรมแก่นักการเมือง พรรกการเมืองทั้งเก่าและใหม่ เพราะเป็นเขตเลือกตั้งที่คุ้นชิน ทุกฝ่ายรับรู้ ส่วนรูป B,C ซึ่งถือเป็นรูปแบบเขตเลือกตั้งใหม่ ที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ในประประวัติศาสตร์การเลือกตั้งส.ส.ของจังหวัดยโตธรจะสร้างผลกระทบโดยตรงแก่ประชาชน ถึง 9ตำบลโดยรูปเบบ B สร้างผลกระทบ 7 ตำบล ( ทุ่งมน,ครีฐาน,กระจาย,หนองแทน,โพนงาม,น้ำคำ,คำไผ่)รูปแบบ C สร้างผลกระทบ 6 ตำบล คือ (ทุ่งมน,ศรีฐาน,นาโส่,คำแมค,น้ำคำ,คำไผ่)

 5.ผลกระทางอ้อม ที่อาจจะสร้างภาระ ความยุ่งยาก ในการตีความกฎหมาย กรณี สภาผู้แทนราษฎรครบวาระ 4 ปี ซึ่งกฎหมายกำหนดข้อห้าม ข้อปฏิบัติในการหาเสียงเลือกตั้งในกรอบเวลา 180 วัน ก่อนครบวาระอิงพื้นที่หรือเขตเลือกตั้งเดิม คือรูปแบบ A หาก รูปแเบบเขตเลือกตั้งเปลี่ยนใหม่เป็นB หรือC ข้อพิพาท ความวุ่นวายสับสน การตีความกฎหมายอาจเกิดขึ้นแน่ ในกรณี สภาผู้แทน ฯครบวาระ 4 ปี จากหตุและผที่กล่าวมานี้ กลุ่มเครื่อข่ายประชาชนผู้สนใจการเมืองจังหวัดยโสธรขอเรียกร้องให้ กกต.ยโสธรและกกต.กลางได้โปรดให้ความเห็นชอบ พิจารณาเลือกรูปแบบเขตเลือกตั้ง ส.ส.ยโฮธร รูปแบบ A (เขตเลือกตั้งเดิมใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2562)โดยมีนางพรรณวิภา สังฆทิพย์  ผอ.กกต.ยโสธรมารับหนังสือพร้อมประชุมร่วมกันและจะนำส่ง กกต.กลางต่อไป