วันที่ 12 มี.ค.2566 ที่ จ.พิษณุโลก นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย  กล่าวปราศรัยบนเวทีคิดใหญ่ทำใหญ่ เพื่อไทยทุกคน ที่อาคารวังเป็ดรวมใจ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ว่า วันนี้ในฐานะน้องใหม่ทางการเมืองมาพร้อมกับหัวใจที่มีความเชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน เชื่อมั่นในระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาพิจารณาว่าในรอบ 8 ปีอันยาวนาน เราเจอปัญหาอะไรบ้าง คุณแพทองธาร ได้บอกแล้วว่าปัญหาที่เราเจอมาเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นปัญหารายได้ตกต่ำเหล่านี้ เป็นปัญหาที่กินใจพวกเราเหลือเกิน  ครึ่งหนึ่งของประชากรพิษณุโลกเป็นเกษตรกร มีหนี้สินที่เกิดจากการทำการเกษตร ไม่น่าเชื่อว่านี่อู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ พี่น้องเกษตรกรกว่าเป็นหนี้ ใช้หนี้ไม่พอเกิดจากผู้นำประเทศไม่ไปขยายตลาด ไม่มีนวัตกรรมมาเสริม ทำนาแทบตายต่อไร่ได้เงินสุทธิแค่ 1,000 บาทแล้วจะกินจะอยู่กันอย่างไร 

นายเศรษฐา  กล่าวว่า คนแก่ คนเฒ่าเกษียณไป มีเงินไม่สามารถเลี้ยงดูได้อย่างมีศักดิ์ศรี นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ พรรคเพื่อไทย เราใช้การตลาดนำ นวัตกรรมเสริม ถ้าเกิดเราได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องเกษตรกรรมตนเชื่อว่าว่ารายได้ของเราจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี เงินสุทธิที่เคยได้ต้องเป็น 3,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นลำบาก ถ้าเกิดพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้ามาบริหารประเทศแบบพรรคเดียว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้กล่าวไว้แล้วเรามี 250 ส.ว. เป็นขวากหนามที่ต้องฟันฝ่าเข้าไป พรรคเพื่อไทยต้องได้อย่างน้อย 310 ที่นั่ง เริ่มต้นที่นี่เริ่มต้นวันนี้ 5 เขต ของจังหวัดพิษณุโลกต้องยกจังหวัด 

"ผมไม่อยากกลับมาที่นี่อีก เพื่ออธิบายว่าทำไมว่าทำไม่ได้ แต่ถ้าเกิดยกเขตได้ 5 เขตในพิษณุโลก ผมเชื่อว่าทุกเรื่องที่ท่านหัวหน้าได้พูดเราต้องทำได้ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาดูว่า 8 ปีมันเพียงพอ 4 ปีต่อไปเราอยากได้อะไร คิดให้ดี อย่าปันใจไม่ต้องมีพรรคพี่ พรรคน้อง พรรคสาขาไม่มีเราไม่เคยพูด ต้องพรรคเพื่อไทยทั้ง 5 เขตพิษณุโลกและสไลด์ทั้งแผ่นดิน" นายเศรษฐา กล่าว