จากกรณีที่มีการการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายในช่องแสมสารได้โดยรอบ จำนวน 6 หลัง แต่ละหลังมีสระน้ำ และมีการโปรโมทย์ประชาสัมพันธ์ คิดค่าเช่าห้องละ 15,000 บาท/วัน ภายใน ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.66) พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วยนายอัครเศรษฐ รักษ์สกุลสงสัย รองนายก อบต.แสมสาร พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สัตหีบ และเจ้าหน้าที่ อบต.แสมสาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมตรวจสอบ รีสอร์ทที่ถูกร้องเรียน เบื้องต้นพบว่าไม่มีเอกสารที่ดินที่ครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีเอกสารการขออนุญาติก่อสร้างแต่อย่างใด จึงได้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการในทันที เพื่อดำเนินการตรวจสอบ พร้อมให้นาย ทหารรัฐธรรมนูญ ฐานทัพเรือสัตหีบ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ สภ.สัตหีบ ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ และหากสอบสวนพบว่าบุกรุกจริงก็เตรียมดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ไม่ได้ขออนุญาติออกในทันที
ทั้งนี้จากการเข้าตรวจสอบพบเพียงหญิงสาวคนเดียวที่รับเป็นผู้ดูแลออกมาต้อนรับ และไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาชี้แจ้งได้ ก่อนรับทราบข้อกล่าวหาและพร้อมหยุดดำเนินกิจการในทันที ในขณะที่กำลังตรวจสอบเอกสารต่างๆ
ก่อนหน้านี้ กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อวันที่ 18 ส.ค.65 ได้ออกหนังสือเลขที่ กห.0521.8/464 แจ้งไปยังผู้ดูแล เพื่อขอความร่วมมือให้ระงับการพัฒนาหรือดำเนินการใดๆในพื้นที่ราชพัสดุ ตามแบบคำขออนุญาตดำเนินการในพื้นที่ราชพัสดุ (จป.3902) เรื่องขอเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย และการเกษตร ลงวันที่ 7 พ.ย.62 ทั้งนี้ ตามที่ท่านได้ยื่นขอเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.481 บริเวณหมู่ 1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (พื้นที่ 1) โดยมีวัตถุประสงค์การขอเช่าเพื่ออยู่อาศัย และประกอบการเกษตร กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ขอแจ้งให้ทราบว่า พื้นที่ขอเช่าดังกล่าว เป็นพื้นที่ราชพัสดุใช้ในราชการกองทัพเรือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.481 อยู่ในที่ดินหวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตหวงห้าม ในท้องที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ศ 2479
และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่ของกองสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ทำการตรวจพื้นที่ซึ่งพบว่ามีการพัฒนาพื้นที่ และนำตู้คอนเทนเนอร์มาติดตั้งไว้ ในบริเวณพื้นที่ขอเช่าจำนวน 6 ตู้ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด จึงขอความร่วมมือให้ระงับการพัฒนาและหยุดดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ขอเช่าที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว จนกว่าท่านจะได้รับความยินยอมให้เช่าจากกองทัพเรือ ลงนามโดย นาวาเอก สรณรรถ สนธิไทย ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ฐานทัพเรือสัตหีบ
สำหรับที่ดินในพื้นที่แสมสารเป็นส่วนหนึ่งของที่สงวนหวงห้ามตามกฎหมาย ต้องห้าม มิให้ออกโฉนดที่ดินแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ฉะนั้นราษฎรผู้อาศัยจึงไม่สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ใดๆ ในที่ดินได้ตามกฎหมาย ซึ่งความเป็นมาของที่ดินแสมสารเดิมคือ พื้นที่ของฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นพื้นที่เขตทรงสงวนตามพระบรมราชโองการใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่กองทัพเรือเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก คลังเชื้อเพลิง และที่ตั้งหน่วยทหาร พื้นที่ฝึก และพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล และภาพลักษณ์ของกองกำลังรักษาประเทศ อยู่ภายใต้ พรบ. ว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร การดำเนินการก่อสร้างใดๆ ในพื้นที่นี้ จึงต้องได้รับอนุญาตจาก กองทัพเรืออย่างถูกต้อง
โดยนาย อัครเศรษฐ รักษ์สกุลสงสัย รองนายก อบต.แสมสาร กล่าวว่า วันนี้เราได้รับการประสานงานจากทางกองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือสัตหีบ มาร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ ที่มีประเด็นมนโลกโซเชียล โดยหน่วยงานในพื้นที่ ก็ได้ร่วมลงมาตรวจสอบ เบื้องต้นเราได้ร่วมกันลงมาดูพื้นที่จริงแล้ว ก่อนที่ทางผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบจะมีการสั่งระงับกิจการเพื่อดำเนินการตรวจสอบ ว่ามีการขออนุญาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างชัดเจนหรือเปล่า เบื้องต้นได้มีคำสั่งระงับตั้งแต่วันนี้ และทางเจ้าของรีสอร์ตได้เซ็นรับทราบแล้ว พื้นที่ในตำบลแสมสาร นั้นขึ้นอยู่กับกรมธนารักษ์ แต่จะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกองทัพเรือ เป็นผู้ดูแล มันจะมีกฎหมายเรื่องความมั่งคงเข้ามา ทาง อบต.เองก็ต้องทำงานร่วมกับทางกองทัพเรือ ไปในทิศทางเดียวกัน โดยกฎหมายบางอย่างก็ไม่ได้มีอำนาจเต็ม ทาง อบต.ไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดทั้งหมดเพราะพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องของเอกสารสิทธิ เป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเราก็ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาในระยะยาวร่วมกัน ไม่งั้นก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกอยู่เรื่อยๆ
สำหรับเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ เป็นคนนอกพื้นที่ที่เข้ามาอยู่ใน ต.แสมสาร ได้สักระยะ โดยเข้ามาทำธุรกิจ ก่อนจะมีการขยายธุรกิจ ส่วนที่ดินตรงนี้ที่มาที่ไปเราก็ต้องลงลึกอีกที่เบื้องต้นได้สั่งระงับไปแล้ว และจะได้มีการตรวจสอบเชิงลึกอีกที่ โดยผมยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นทุนต่างชาติหรือเปล่าซึ่งจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง