นครพนม ล่ามือดีสุดแสบลอบเผาบ่อขยะฝังกลบเทศบาลตำบลเรณูนคร อ.เรณูนคร ไฟลุกลามเนื้อที่กว่า 14 ไร่ นายกเล็กระดมรถน้ำดับเพลิง ควบคุมได้แล้ว มั่นใจเอาอยู่ พบเบาะแสถูกมือดีคาดป่วยจิต คนเร่ร่อน ลอบเผา เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าระวังเชื้อเพลิงลุกลามซ้ำอีก เพิ่มมาตรการเข้มดูแล ยันบริหารจัดการได้ ไม่ล้นบ่อ

           

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าล่าสุดกรณี เกิดเหตุไฟลุกลามไหม้บ่อขยะแบบฝังกลบ ของเทศบาลตำบลเรณุนคร อ.เรณูนคร ในพื้นที่ บ้านหนองแซง หมู่ 8 ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ในช่วง 2 -3 วันที่ผ่านมา มีเนื้อที่กว่า 14 ไร่ มีการรองรับขยะแบบฝังกลบ หลาย 100 ตัน ทำให้ไฟลุกลามไหม้ขยะเศษวัสดุต่างๆ รวมถึงถุงพลาสติก ไปทั่วพื้นที่บ่อขยะฝังกลบ ภายหลัง ทางด้าน นายวันชัย จันทร์ พร ผวจ.นครพนม มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ประสานงานร่วมกับ นาย ภัทรชัย หาญวิศิษฏ์ นายอำเภอเรณูนคร นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเรณูนคร นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ระดมรถน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุ รวมกว่า 20 คัน จนกระทั่งสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ และรถน้ำดับเพลิง เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ป้องกันเชื้อเพลิงปะทุลุกไหม้ซ้ำอีก ส่วนสาเหตุพบเบาะแสมีคนลอบเผา อยู่ระหว่างการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง สืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

           

ด้าน นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเรณูนคร อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับบ่อขยะเทศบาลตำบลเรณูนคร เป็นบ่อขยะแบบฝังกลบเนื้อที่รวมกว่า 14 ไร่  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านนองแซง ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม รองรับขยะจากพื้นที่ทั้งอำเภอ นำมาทิ้งก่อนฝังกลบ รองรับประมาณวันละ 5 – 6 ตัน ยืนยันว่าที่ผ่านมา มีการฝังกลบตามระบบการบริหารจัดการขยะ ได้เพียงพอ ไม่เกิดปัญหาขยะล้นบ่อ แต่สาเหตุที่เกิดขึ้น มีการตรวจสอบพบเบาะแสว่า มีคนลอบเผา คาดเป็นกลุ่มคนป่วยจิต รวมถึงแรงงานเร่ร่อน ที่เข้ามาเก็บขยะขาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการบริหารจัดการ และการป้องกันแก้ไขในระยะยาว จะได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตรวจสอบ ป้องกัน และจัดเวรยามดูแล ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก โดยในช่วงที่เกิดเพลิงไหม้บ่อขยะ ในช่วง 2 -3 วันที่ผ่านมา มั่นใจไม่ส่งผลกระทบรุ่นแรงต่อพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลสอบถาม ปัญหาความเดือดร้อนต่อเนื่อง เพื่อวางแนวทางป้องกันแก้ไข