นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) งวดพ.ค.-ส.ค. 66 มีสัญญาณที่ดีที่จะมีการปรับตัวลดลงโดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ได้พิจารณาที่จะไม่ให้กระทบต่อต้นทุนภาพรวมโดยดูแลทุกภาคส่วนโดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยที่จะไม่สูงขึ้นจากปัจจุบันโดยอย่างน้อยจะอยู่ในระดับเดิมคือ 4.72 บาทต่อหน่วย
โดยค่าไฟฟ้าในงวดนี้จะเป็นอัตราเดียวเนื่องจากในงวดม.ค.-เม.ย. 66 ที่ต้องแยกเป็น 2 อัตราคือ ประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ที่ค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น (ธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการฯลฯ) ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.33 บาทต่อหน่วยเป็นกรณีพิเศษที่เกิดจากการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติเพื่อลดผลกระทบให้กับบ้านที่อยู่อาศัย
"ค่าไฟในงวดแรกม.ค.-เม.ย.66 ถือว่าพีคสุดแล้วและเวลานี้หลายปัจจัยต่างๆที่เป็นต้นทุนดีขึ้น โดยค่าไฟในส่วนของภาคอุตสาหกรรมจะลดลงจากเดิมแน่นอน และกกพ.เองก็เตรียมประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นก็ต้องไปดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งกกพ.ก็น่าจะพิจารณาที่จะไม่ทำให้สูงขึ้นด้วยต้นทุนต่างๆที่ลดลงเพราะที่ผ่านมาทุกภาคส่วนเองก็รับภาระมาพอสมควรแล้วซึ่งรัฐเองก็เข้าใจและพยายามดูแลมาโดยตลอด"
สำหรับราคาดีเซลขายปลีกที่ขณะนี้อยู่ระดับประมาณ 34 บาทต่อลิตรได้มีการติดตามราคาตลาดโลกใกล้ชิดซึ่งยอมรับว่าขณะนี้ราคามีความผันผวนมากจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสูงแต่ขณะนี้เริ่มอ่อนตัวลง ดังนั้นหากแนวโน้มการปรับตัวลดลงต่อเนื่องทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมที่จะพิจารณาในกาปรับลดราคาขายปลีกทันทีเพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน