ที่นครศรีธรรมราช เมื่อ 8 มีนาคม 2566 ได้มีการลงพื้นที่บริเวณริมถนนสายนครศรีธรรมราช-ท่าศาลา บ้านศาลาบางปู ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ละแวกนี้เป็นตลาดค้าปลีกค้าส่งไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่ที่สุดของนครศรีธรรมราช และเป็นแหล่งที่หน่วยงานราชการ หรือผู้รับเหมาจัดซื้อไปใช้งาน และเป็นแหล่งที่ภาคเอกชนจะมาซื้อไปตกแต่งตามรีสอร์ท โรงแรม หรือสถานประกอบการ

ที่ร้านขนาดใหญ่ร้านหนึ่งได้มีการสอบถามข้อมูลราคาไม้ดอกไม้ประดับ โดยผู้ประกอบการได้ให้ข้อมูลอย่างละเอียดถึงราคาไม้ดอกไม้ประดับจากส่วนใหญ่แล้วจะเป็นราคาตลาดที่ใกล้เคียง หรือแทบไม่มีความแตกต่างเนื่องจากมีผู้ค้าหลายราย และผู้ค้าส่งที่ส่งมาจากแหล่งเพาะเลี้ยงกล้าไม้จากแถบชานกรุงเทพมหานคร  จะนำมาส่งจะไม่มีรายใดที่มีราคาสูงแบบผิดปกติเนื่องจากมีผู้แข่งขันในตลาดหลายรายการค้าต้นไม้จึงมีกำไรไม่มาก แค่พอดำรงอยู่ของธุรกิจไปได้เท่านั้น

และเมื่อสอบถามข้อมูลราคาต้นทองอุไรจากผู้ประกอบการ ได้รับคำตอบว่าต้นทองอุไรที่มีขนาด 50-60 ซ.ม.ตามภาพนี้จะอยู่ที่ 60-80 บาท โตขึ้นมาอีกเล็กน้อยจะอยู่ที่ประมาณ 100 บาท  ราคาขายส่งจำนวนมากจะอยู่ที่ 80 บาท และเมื่อมีขนาดโตขึ้นไปอีกจะมีราคาสูงขึ้นตามขนาดเช่น 600-800 หรือแพงสุดจะมีขนาดใหญ่มากกว่า 2 เมตร จะอยู่ที่ประมาณ 1,200 แต่จะต้องมีฟอร์มสวย มีดอกสะพรั่งในขณะที่จำหน่ายออกหากไม่ได้คุณสมบัติตามนี้ราคาจะลดลงตามสภาพและฟอร์มของต้น สาเหตุที่มีราคาไม่แพงนั้นเนื่องจากเป็นไม้ที่ขยายพันธ์ได้ง่าย โตเร็ว เลี้ยงง่าย

ส่วนต้นรวงผึ้ง ผู้ค้ารายนี้ให้ข้อมูลอธิบายว่าเป็นไม้ที่เลี้ยงยากมากกว่า ผลิดอกได้ยากกว่าจะต้องการดูแลมากกว่า ดอกงามสวย ราคาสูงกว่ารวงผึ้งอยู่ที่หลักร้อยบาทตามขนาด และที่มีจำหน่ายอยู่นั้นขนาดใหญ่ที่สุดสูงประมาณ 2-3 เมตรจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท ตามสภาพตลาดจะมีราคาลดลงได้อีกหากมีความต้องการมากการราคาขายส่งจะลดลง เว้นแต่สภาพต้นที่มีความพิเศษฟอร์มต้นดี การแผ่กิ่งสวย หรือขนาดใหญ่ที่เข้าข่ายเป็นไม้ล้อมต้องใช้เครื่องจักรเครนเข้ายกขนย้ายลักษณะเช่นนั้นแล้วแต่ราคาและการขนส่งที่อยู่ตามความพอใจของผู้ซื้อและผู้จำหน่าย ส่วนใหญ่การซื้อขายนี้จะอยู่ที่บ้านที่มีการจัดสวนหย่อมขนาดใหญ่ๆ โรงแรม รีสอร์ทใหญ่ๆ