นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่เขตบางขุนเทียนว่าโดยปกติได้จัดกำลังลงพื้นที่ตรวจโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ตรวจควันดำรถ สถานประกอบการ และรดน้ำชำระล้างต้นไม้เป็นประจำตามแผนรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน ในช่วงฝุ่น PM2.5 สูง จะมีการเพิ่มความถี่ของมาตรการมากขึ้น ทั้งนี้ยังติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำบนดาดฟ้าตึกสำนักงานเขต พร้อมประสานกรมทางหลวง เพื่อติดตั้งระบบละอองน้ำบริเวณถนนพระราม2 รวมถึงผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าและโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อติดตั้งระบบละอองน้ำ พร้อมแจ้งเตือนนักเรียนงดกิจกรรมกลางแจ้งกรณีค่าฝุ่นสูง นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลฝุ่นPM2.5 บนป้ายอิเล็กทรอนิกส์บริเวณทางหลวงและทางด่วนในพื้นที่เพื่อให้ผู้สัญจรผ่านพื้นที่เขตได้รับทราบและเตรียมตัวป้องกัน ซึ่งได้ประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในพื้นที่

นางภัสรา กล่าวต่อว่า ปัญหาที่พบคือ จุดติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 อยู่บริเวณทางขึ้น-ลงของทางด่วน จึงทำให้ตัวเลขค่าฝุ่นขึ้นสูงเกือบตลอดเวลา แตกต่างจากจุดวัดอื่นๆ เช่น สำนักงานเขตบางขุนเทียน หรือบริเวณทางไปทะเลบางขุนเทียน รวมถึงโรงเรียนทั้ง 16 แห่งในพื้นที่ ซึ่งมีค่าฝุ่นน้อยกว่า และแต่ละจุดก็มีค่าฝุ่นไม่เท่ากัน จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า เขตบางขุนเทียนทั้งเขตมีค่าฝุ่นสูง หากขึ้นอยู่กับการนำค่าฝุ่นจากเครื่องวัดจุดใดมาอ้างอิงข้อมูล ซึ่งหากนำค่าจากจุดวัดที่มีรถบรรทุกผ่านจำนวนมากทั้งรถจากภายในเขตและนอกเขต ตัวเลขค่าฝุ่นย่อมสูง ดังนั้น จากการนำเสนอข้อมูลค่าฝุ่นตามช่องทางต่างๆ จึงไม่อาจสรุปได้ว่าเขตบางขุนเทียนทั้งหมดค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุด เพราะยังมีจุดอื่นๆ ภายในเขตที่มีคุณภาพอากาศดี สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ ป้องกันได้ ไม่เลวร้ายเหมือนที่มีการนำเสนอ

​​​​​ ​​​​​​​