“ทิพานัน” แนะ"ทักษิณ"แม้ว้าเหว่ก็ต้องยอมรับความจริงแม้เจ็บปวด ประชาชนนิยมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  เชื่อคนไทยเห็น "พล.อ.ประยุทธ์" มีผลงานที่ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ อย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ย้ำใครยืนยันตนไม่ได้ยังมีเวลาไปธนาคาร

วันที่ 8 มีนาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปี 65 วงเงินรวม 9,140 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิสวัสดิการ 14.59 ล้านคน จากที่ลงทะเบียนไว้ 22 ล้านคน โดยได้ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาแล้วนั้น ล่าสุด ณ วันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. มีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 2,742,919 ราย

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในส่วนของผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ อาจเกิดจากปัญหา คือ ตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่าน สามารถตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ หรือเพราะตรวจสอบเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน สามารถติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนได้ 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ดังนั้นผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่ผ่านไม่ต้องตกใจ สามารถติดต่อธนาคารที่รับยืนยันตัวตนได้ทุกวันไม่เว้นวันเสาร์ – อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์  ทั้งนี้ทางรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้ให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้า พิจารณาเปิดให้บริการยืนยันตัวตน และยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอีกด้วย  ซึ่งจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 700,403 รายแล้ว 

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร  ออกมาวิจารณ์ว่าประชาชนจะเมินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจนายทักษิณ ที่คงว้าเหว่ โดดเดี่ยว และขาดความอบอุ่น แต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้แม้จะเจ็บปวด ที่นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นที่นิยม  มีประสิทธิภาพ เข้าไปแก้ปัญหาได้ตรงจุด และมีกลไกในการพัฒนาไปสู่การยกระดับสวัสดิการประชาชน  ไม่ใช่เพียงมิติของรายได้เท่านั้น แต่คือหัวใจของสวัสดิการประชาชน แม้แต่ตัวนายทักษิณ ก็ไม่กล้าประกาศให้ชัดเจนว่าจะแนะนำให้พรรคเพื่อไทยยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ ได้แต่ขี่ม้าเลียบค่ายและหาจังหวะช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาหมดแล้ว  ทั้งดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยตามนโยบาย 5F สร้างกระแสนิยมในเวทีโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าหมายปี 2566 ประเทศไทยจะมีรายได้รวมการท่องเที่ยวที่ 2.4 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 80% เป็นมูลค่าเศรษฐกิจที่จับต้องได้ 

“เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทย ได้เห็นนโยบายและผลงานหลายด้าน ครบทุกมิติที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ มาตลอด ยิ่งในเรื่องการติดตามแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนก็ติดตามอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ทั้งสนับสนุนวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อการศึกษา เพื่อการเกษตร วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ครอบคลุมค่าเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งทุกสิทธิส่งตรงถึงมือประชาชน” น.ส.ทิพานัน กล่าว