บิ๊กตู่ สวมเฝือกนั่งหัวโต๊ะถกครม. บอกยังเจ็บมืออยู่ ลุงป้อมลั่นไม่ขวางสมศักดิ์ย้ายซบพท. จะไปก็ไป ด้าน "อนุทิน" ยัน "ภท." ไม่เสียกำลังใจปมถูกถล่มช่วงเลือกตั้ง ขอบคุณ "นายกฯ" ยกหูโทรหา บอกห่วง "ศักดิ์สยาม-ภท." ส่วน"พิพัฒน์" ยัน "ศักดิ์สยาม" หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่กระทบพรรค ขณะที่"สมศักดิ์" โยน "สุริยะ" ตัดสินใจเส้นทางการเมือง  ยอมรับถนัดเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน "สนธิญา" ร้องกกต. ยุบ "เพื่อไทย" ปม "ณัฐวุฒิ" ขึ้นเวทีปราศรัย 

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มี.ค.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังจากนายกฯ ออกจากโรงพยาบาลเข้ารับการรักษามือด้านขวาบวมอักเสบ โดยนายกฯ ยังใส่เฝือกอ่อนและสวมหมอนรองคอเพื่อพยุงกันแรงสะเทือนระหว่างนั่งรถ
    
 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยกมือซ้ายขึ้นทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าบริเวณหลังมือด้านซ้ายยังคงติดอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งสายสำหรับให้น้ำเกลือ ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคงปวดแผลและมีอาการตึงแผลอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ โชว์มือด้านซ้ายที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ติดอยู่ พร้อมกล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า ยังปวดแผลนิดหน่อย ยังมีอาการตึง แต่มันก็ดีขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องทำงานนะ งานมันเยอะ แต้งกิ้ว
    
 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยให้ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ อาจย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ว่า ไปถามเขาดูๆ 
     
เมื่อถามว่า หากนายสมศักดิ์ไปอยู่พรรคเพื่อไทยจริง จะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า "ถ้าไป ก็ไป" เมื่อถามย้ำว่า หากนายสมศักดิ์ไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้วจะกระทบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ยังไม่เจอกับผม"  เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายสมศักดิ์เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี จะมาถามอะไร
    
 เมื่อถามว่า มีการหารือกับ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ถึงทิศทางการเมือง เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ตามนั้น ตามนั้นที่เขาโพสต์ เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ถึงอาการป่วยอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  "เขาเจ็บผมก็เจ็บ เจ็บที่เท้า" เมื่อถามย้ำว่า ได้ให้กำลังใจกันหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยกันอยู่ตลอด ถามอะไรก็ไม่รู้ 
   
  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวยุบสภาวันที่ 20 มี.ค. ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ ว่า ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เลย อยู่ที่นายกฯ ตนไม่ควรพูด ตนไม่รู้จริงๆ เมื่อถามว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจะทำให้วันเลือกตั้งขยับไปเป็นวันที่ 14 พ.ค.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดให้นับระยะเวลาให้ได้ ไม่น้อยกว่า 45 วัน ไม่น้อยกว่า 60 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด 
    
 เมื่อถามว่า วันที่ 7 พ.ค.หรือวันที่ 14 พ.ค. อันไหนเหมาะกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ยุบสภาวันไหน เดิมที่คิดว่าวันที่ 7 พ.ค. อยู่บนสมมติฐานที่คิดว่า มันได้เวลา 60 วัน แต่ถ้าไปถึงวันที่ 14 พ.ค. ก็ต้องดูว่าอยู่ในกรอบเวลาหรือไม่แต่ต้องอยู่บนหลักเลือกตั้งวันอาทิตย์ เมื่อถามอีกว่า หากยุบสภาวันที่ 20 ก.พ.เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. เป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุ  กล่าวว่า ได้เพราะอยู่ในกรอบ 
    
 เมื่อถามอีกว่า  ระหว่างสุดสัปดาห์ที่หยุดติดต่อกัน 4 วัน กับสุดสัปดาห์ที่หยุด 2 วัน จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.บอกแล้วว่าไม่มีผลได้เสีย และไม่แตกต่างกันในการจัดการการเลือกตั้ง เมื่อถามว่า ใกล้การยุบสภามีเรื่องอะไรที่น่าห่วงใยต้องเตือนคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีเพราะอีกหน่อยกกต.จะเป็นคนเตือนเอง และนายกฯไม่ได้พูดอะไรเลยปกติทุกอย่าง 
    
 เมื่อถามว่า ก่อนยุบสภา นายกฯต้องมาหารือกับนายวิษณุ เรื่องข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่านายกฯคงไม่มาคุยเกี่ยวกับวันที่จะยุบวันไหน แต่อาจหารือเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกาและในพระราชกฤษฎีกา ไม่ได้ระบุวันเลือกตั้งเพียงแต่ระบุวันยุบสภา เมื่อถามว่า เมื่อหารือกันแล้วก็พอจะทราบใช่หรือไม่ว่าเป็นวันไหน นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้แต่ยังไม่ได้หารือกัน ท่านคงรอให้แขนหายก่อนมั้ง 
     
เมื่อถามว่า ในที่ประชุม นายกฯได้พูดคุยอาการป่วยบ้างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีรัฐมนตรีหลายคนสอบถาม ซึ่งนายกฯก็ตอบเป็นส่วนตัว สำหรับตนก็ถามนายกฯว่ายังสามารถเซ็นชื่อได้อยู่หรือไม่ นายกฯก็ตอบว่าเซ็นได้
  
   
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์มืออักเสบต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่า ตนก็เป็นห่วงและได้เขียนข้อความไปเยี่ยมแล้ว ตนเข้าใจดีว่าเคยป่วยต้องนอนพักเยอะๆ  รับแขกเยอะๆ จะไม่ค่อยหาย ซึ่งนายกฯได้โทรศัพท์มาหาตน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 มี.ค. ท่านเป็นห่วง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค และได้สอบถามว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไรบ้าง โอเคไหม ตนจึงได้ตอบนายกฯ ไปว่าโอเคทุกอย่าง และได้กราบขอบพระคุณนายกฯ ไป ซึ่งนายกฯไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าโทรมาจากโรงพยาบาล ตนมารู้ภายหลังประมาณ10-20 นาที หลังจากเห็นข่าว จึงไลน์ไปกราบขอโทษ ขอให้ท่านหายไวๆ เพราะตอนที่คุยทางโทรศัพท์ไม่ได้สอบถามเรื่องอาการป่วยท่านเลย
   
  นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกรณีนายศักดิ์สยามถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า นายศักดิ์สยามก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงจะใช้เวลาจากนี้ในการทำหน้าที่เลขาธิการพรรคอย่างเต็มที่ ส่วนการทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรี เราเคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา 
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกพรรคภูมิใจไทยเสียขวัญบ้างไหม นายอนุทิน กล่าวว่า พอดีตอนนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์สุดท้ายเท่านั้น  ซึ่งในพรรคไม่มีใครเสียขวัญ "ในชีวิตที่ผ่านมา มีเรื่องขวัญหนีดีฝ่อกว่านี้เยอะดังนั้นแค่นี้ไม่เป็นไรเราต้องเคารพคำสั่งศาล ต้องทำตามกติกา"
    
 เมื่อถามว่า ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยเจอหลายเรื่องที่พุ่งเข้ามา นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ในพรรคก็มีการคุยกัน และเห็นว่าอาจเป็นเพราะภูมิใจไทยมีเรื่องอะไรที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าเป็นเรื่องที่ตรงใจประชาชนถ้าปล่อยไปพรรคภูมิใจไทยจะได้คะแนนมากขึ้น จึงต้องสกัดไว้ก่อน  ซึ่งพรรคที่สกัด หรือคนที่ไม่หวังดีกับพรรคภูมิใจไทย เขาไม่เสียหายอะไร แต่คนเสียหายคือประชาชน 
   
  เมื่อถามว่า เป็นการเตะตัดขาก่อนเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็พรรคภูมิใจไทยทำงานเยอะมาก และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งนั้น ผลงานจับต้องได้หมดและทำได้เร็ว จึงอาจมองอย่างนั้นได้ เมื่อถามว่า งานในกระทรวงคมนาคมที่มี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม จากพรรคพลังประชารัฐ  รับผิดชอบ จะมีปัญหาหรือไม่  นายอนุทิน  กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะพอเป็นรัฐบาลรักษาการก็ไม่สามารถทำอะไรได้เยอะแยะ ส่วนใหญ่งานในทางปฏิบัติจะอยู่ที่ปลัดกระทรวงมากกว่า แม้แต่ตนเองหลายอย่างที่เป็นงานประจำ ก็ได้ให้ปลัดกระทรวงเข้ามารับผิดชอบแทน เรื่องนี้แม้ไม่ใช่เรื่องทางกฎหมายแต่เราก็ต้องรู้กฎ กติกา มารยาท เมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการเราก็ต้องลดบทบาทลงมาเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน เพราะมิเช่นนั้นหากเกิดอะไรขึ้นมาก็จะเป็นอุปสรรคที่เราเดินเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
     
เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะไปกระทรวงคมนาคมเพื่อให้นายอธิรัฐตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า  ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะรัฐมนตรีว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่เขาก็ต้องไปคุยกับรัฐมนตรีรักษาการ
    
 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายศักดิ์สยามบอกว่าพร้อมที่จะชี้แจงภายในเวลา 15 วัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีที่มาที่ไปถูกต้องทั้งหมด เมื่อถามว่า คนในพรรครู้สึกตกใจและเป็นกังวลกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ส.ส.ของพรรคไม่ได้กังวล เพราะนายศักดิ์สยามมั่นใจว่าสิ่งที่กระทำมาไม่ได้ผิดอะไร และเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค และขอให้สบายใจได้ เมื่อถึงเวลา 15 วัน ก็จะไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคภูมิใจไทยยังเดินหน้าต่อไปแน่นอน และเดินหน้าตลอด โดยไม่เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาปิดกั้นพรรค และเมื่อมีการตรวจสอบออกมาแล้ว เกิดความชัดเจน เกิดความโปร่งใส จะเป็นผลบวกกับพรรคมากกว่า 
   
  เมื่อถามว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่ในช่วงใกล้เลือกตั้งจะส่งผลกระทบต่อการหาเสียงของพรรคหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริง เมื่อถูกตั้งข้อสังเกตตามข้อกล่าวหา ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เชื่อว่าเลขาพรรคชี้แจงได้อยู่แล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นธรรมดาของการเมืองในช่วงปลายรัฐบาล ก่อนจะมีการเลือกตั้งที่จะมีการตรวจสอบ และคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้สิทธิชี้แจงสิ่งเหล่านี้ให้เคลียร์โดยเร็ว และที่ผ่านมาการอภิปรายแต่ละครั้ง ก็จะหยิบยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาอภิปรายในสภาฯ 
   
  เมื่อถามว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่จะกระทบต่อการจัดบัญชีรายชื่อส.ส. เพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณาช้าหรือเร็ว แต่ไม่เป็นไร เพราะคนที่เป็นรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส. แต่สามารถบริหารงานได้  เมื่อถามย้ำว่า นายศักดิ์สยามจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องถามนายศักดิ์สยามเอง
   
  นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ท่านสบายดี ไม่มีปัญหาอะไร เลขาธิการพรรคเป็นคนเข้มแข็ง  เมื่อถามว่า จะลงพื้นที่ช่วงพรรคภูมิใจไทย หาเสียงต่อไปได้หรือไม่ นางมนัญญา กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้พูดคุย แต่เชื่อว่าไม่กระทบกับการหาเสียงของพรรคในช่วงใกล้เลือกตั้ง  
   
  นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เลขาธิการพรรคสบายดี  เมื่อถามว่าจะกระทบกับการหาเสียงของพรรคหรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กระทบ ทุกคนในพรรคกำลังใจดี มีความฮึกเหิมมาก
  
   ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)  ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนทางการเมืองของกลุ่มสามมิตรว่า ความชัดเจนทางการเมืองได้มอบหมายให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ดำเนินการ เพราะท่านเสียงดังกว่าตน แกได้ตะโกนไปแล้ว
  
   เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่นายสุริยะ ระยะเวลาการยุบสภาจากวันนี้เหลือ10 กว่าวัน คงตัดสินใจอะไรกันได้แล้วขอให้ถามนายสุริยะ ยกให้ท่านเลยจะไปไหนก็ไปด้วยกัน  เมื่อถามว่า  โอกาสที่จะย้ายพรรคมีมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ยังลังเลอะไรอยู่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ลังเลหรือไม่ลังเลคงไม่ใช่ แต่เราต้องรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตนในฐานะรัฐมนตรียุติธรรมมีงานอะไรที่คั่งค้างก็ต้องทำให้เสร็จเช่น การผลักดันกฎหมายอุ้มหายที่ต้องเข้าทั้งคณะรัฐมนตรีและสภาฯเสร็จการงานแล้วตอนนี้หมดหน้าที่การงานแล้ว เราจะไปไหนมาไหนได้หรือไม่ไปก็ได้จบแล้ว 
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา เมื่อถามว่า สมาชิกในกลุ่มสามมิตรจะฝากเลี้ยงไว้ในพรรคพลังประชารัฐต่อหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สมาชิกในกลุ่มเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว บางคนย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แต่ก็มีข่าวจะย้ายกลับเยอะ ตอนนี้การเมืองช่วงเวลาสุดท้ายจะมาถึง คนที่ย้ายเป็นกลุ่มเป็นก้อนออกไป ดูแล้วบรรยากาศคงไม่ค่อยสบายใจจากเรื่องทั่วๆไปที่เกิดขึ้น  การเมืองมันไปเร็ว บางทีไปแล้วมันไม่ใช่คิดจะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะที่เต็ม แต่จะขยับอย่า