เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 มี.ค.66 ที่กระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนิน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะรักษาการ รมว.คมนาคม เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงในสังกัดกระทรวงที่ประพฤติมิชอบ พร้อมนำไม้กวาดและไม้ขนไก่ ปัดกวาดทำความสะอาดบริเวณป้ายกระทรวง ก่อนนำแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดีและให้กำลังใจในการทำงานต่อนายอธิรัฐ
โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไว้วางใจนายอธิรัฐ ในฐานะที่เป็นคนหนุ่ม มีอนาคต จึงนำข้อร้องเรียนมาเสนอให้ตรวจสอบ ประกอบด้วย 1.ยับยั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตามที่เคยได้ให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้ 2.ตรวจสอบ หจก.บริษัทบุรีเจริญฯ ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ใช้บริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์ ซึ่งอยู่ในเครือ ฮั้วประมูลโครงการรถไฟของรัฐ 2 เส้นทางโดยการกู้เทียบอย่างไม่โปร่งใส ซึ่งยังเกี่ยวข้องกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังอีก 2 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวและนอมินีของบริษัท ยังบริจาคเงินให้พรรคการเมืองใหญ่เป็นเงินจำนวนมาก 3.ดำเนินคดีนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เรื่องการออกโฉนดที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ของ รฟท.โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ ป.ป.ช.มีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ดินแล้ว โดยที่ดินดังกล่าว ยังมีบ้านของนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม แต่กลับมีชาวบ้าน 35 ราย ที่ถูกคำสั่งศาลให้รื้อถอนบ้านตัวเองออกไป และ 4.ตรวจสอบนางสุขสำรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม ที่ใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตตนเอง ลงนามสั่งการแทนรัฐมนตรี เร่งรัดโครงการของกรมทางหลวงชนบทที่มีงบประมาณกว่า 3 ร้อยล้านบาท โดยสั่งควบคุมให้ติดตามโครงการอย่างใกล้ชิด
"นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นักการเมืองถูกตรวจสอบ จะวิ่งเต้นกับนายสุชาติ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ โดยบุคคลดังกล่าวยังถูกร้องเรียนมากมาย จึงเรียนถามไปยัง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ว่าจะดำเนินการให้องค์กรโปร่งใสได้อย่างไร หากไม่ปลดออกก็ต้องสับเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีอาญาเสียเอง"นายชูวิทย์ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุใดในเมื่อนายชูวิทย์ มีข้อมูลเหล่านี้มานานแล้วแต่เพิ่งมาเปิดเผยเวลานี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า หากตนเปิดเผยข้อมูลนี้ในเวลาอื่นก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง ตนจึงต้องการทำลายคะแนนพรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่าตนมีเบื้องหลังเยอะ จะรับงานด่าใครก็รับหมด เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนอย่างตนพึงกระทำได้ ไม่ใช่ในฐานะสื่อมวลชนหรือนักการเมือง พร้อมฝากไปยังนายศักดิ์สยาม ว่า ให้เลิกวิ่งเต้นกับนายสุชาติ แต่มีผู้ใหญ่คนหนึ่งติดต่อเข้ามาขอให้เว้นนายสุชาติ ไว้ ตนไม่อาจทำได้ เพราะนี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง ตนยินดีรับผิดชอบภาระทางกฎหมาย ไม่กังวลว่าจะถูกฟ้องร้องกลับหรือไม่
ด้าน นายอธิรัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามระเบียบขั้นตอน ทั้งนี้ ตามหน้าที่ของเลขานุการรัฐมนตรีแล้ว ไม่สามารถลงนามแทนรัฐมนตรีได้ แต่ตนเพิ่งทราบเรื่องจึงยังต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติม