วันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่กรมศุลกากร นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดประเภท 1 เฮโรอีน (Heroin) น้ำหนัก 43.40 กิโลกรัม มูลค่า 107.5 ล้านบาท พร้อมด้วย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.อ.บุรี บุญวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการข่าว ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายจักกฤช อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ นายพชร กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย และสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด ด้านกระทรวงการคลัง โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เพิ่มความเข้มงวดและเดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรทุกเส้นทาง กรมศุลกากรจึงเพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาและออกนอกราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายใต้การปฏิบัติงานของชุด AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร พบพัสดุต้องสงสัยเตรียมส่ง HONG KONG จำนวน 29 หีบห่อ สำแดงสินค้าเป็นของใช้ตามบ้านเรือน เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ และเครื่องขจัดขน ซึ่งจากการเปิดตรวจสินค้าที่เป็นเสื้อผ้าชาวเขาและผ้าเตี่ยว จำนวน 6 หีบห่อ พบว่าบริเวณปลายแขนเสื้อทั้งสองข้างมีความหนาผิดปกติและมีกลิ่นฉุน จึงทำการเลาะตะเข็บแขนเสื้อและผ้าเตี่ยวออก พบสารที่มีลักษณะเป็นผงบรรจุอยู่ในแถบผ้าดิบที่มีการเย็บติดกับแขนเสื้อและผ้าเตี่ยว จากนั้นจึงนำวัตถุต้องสงสัยมาทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาเคมี (ONCB 051 Marquis Reagent) และเครื่อง Handheld Raman Spectrometer แสดงผลเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน (HEROIN) น้ำหนักของยาเสพติด 43.40 กิโลกรัม มูลค่า 107,500,000.00 บาท
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็น “การนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน (HEROIN) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ประกอบกับพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 มาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 พนักงานศุลกากรจึงได้ยึดยาเสพติดดังกล่าวไว้เป็นของกลาง เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป