วันที่ 6 มี.ค.66 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันที่ 9 มี.ค.นี้ พปชร.จะเปิดเวทีเสวนา "พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ" ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะเป็นการระดมความคิดเห็นเป็นครั้งแรก และยังมีการจัดต่อเนื่อง ในประเด็นที่จะนำไปสู่นโยบายการแก้ไขปัญหาให้คน กทม.ในทุกมิติ จากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พปชร. เครือข่ายภาคประชาสังคม นักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้ง กทม. เพื่อร่วมหารือถึง ประเด็นปัญหาและวิธีการขจัดปัญหา แก้ไขปรับปรุง สู่การผลักดัน เพื่อออกนโยบาย นำไปสู่การพัฒนากทม.ให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิต ขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตามนโยบายของ พปชร.
"เวทีครั้งนี้จะเป็นการ นำแนวคิด และนโยบายของ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม นักกิจกรรม นักวิชาการและประชาชนคนกทม. เพื่อมาร่วมเสนอแนวคิด มุมมอง และวิธีการแก้ปัญหา ที่นำไปสู่การออกแบบการพัฒนาหรือนโยบายในการพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่แต่ละเขต ที่มีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกันไป"ศ.ดร.นฤมลกล่าว
โดยเริ่มต้นจาก เป้าหมายการพัฒนา กทม. ให้มีที่อยู่อยู่อาศัย และชุมชน ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านสวัสดิการ การประกอบอาชีพ ภายใต้แนวคิด Eco living society เพื่อเพิ่มพื้นที่ความสุขให้คน กทม. โดยจะเป็นในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกับชุมชน สะท้อนให้เห็นว่าในบางพื้นที่ เช่นพื้นที่ “บางคอแหลม” มีข้อเสนอนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในเมือง ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
"เรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เป็นพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สำคัญ ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน และเมือง ซึ่งควรจะมีพื้นที่สีเขียว ลานกีฬา สถานพยาบาล โรงเรียนที่ดี ซึ่งเป็นการสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่มีคุณภาพและเป็นแบบอย่างการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ"
สำหรับพื้นที่ ที่เป็นชุมชนแออัด อย่าง "บางขุนเทียน" มีข้อเสนอนโยบายเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี สะอาด เพื่อให้ชุมชนมีคุณภาพ โดยเฉพาะปัญหาขยะที่ต้องมีการบริหารจัดการเพื่อพลิกโฉมให้เป็นชุมชนน่าอยู่ ส่วนปัญหาเด็กในชุมชนแออัด ใน "พื้นที่ราษฎร์บูรณะ" มีแนวคิดที่จะสร้างโอกาสการเรียนรู้ ให้เยาวชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้หลุดพ้นจากความยากจน
อย่างไรก็ตามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทุกพื้นที่ มีความตั้งใจและพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากความคิดเห็นของหลายกลุ่มคน เพื่อที่จะเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ และแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการของประชาชน