รวบบัญชีม้าส่งลิงค์ ผ่านแอปดัง หลอกให้ทำงาน กดไลค์ร้านแอปส้ม อ้างต้องเติมเงินเข้าระบบก่อน เสร็จงานเงินสูญ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ บก.สอท.3, พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,  พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.ศิลา กาญจน์รักษ์ รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.นิพล  บุญเกิด รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย  รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.คำภีร์  พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.กก.2 บก.สอท.1,พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3, พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.อ.ศักราช สาครไพศาล ผกก.ฝ่ายอำนวยการ 1 บก.อก.บช.สอท./ชป.4 , (biker cop)และเจ้าหน้าที่ตำรวจ  กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พ.ต.ท.สุระ วราพร,พ.ต.ต.นิพนธ์ ลำน้อย รอง ผกก.วิเคราห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทะวัน สว.กก.วิเคราะห์ฯ,พ.ต.ต.ชนาธิป ญานัปปสุต สว.กก.วิเคราะห์ฯ(biker cop)ร่วมกันจับตัว น.ส.ภัทรดา นามสมมติตามหมายจับของ  ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 339/2565 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565(siren) โดยกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ฯ”โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนภายในซอยสุขสวัสดิ์ 76 ลัดหลวง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ต.สถิตย์   กล่าวถึงพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหา  ว่าคนร้ายมีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนทั่วไป โดยการส่งลิงค์โพสท์ในช่องทางแอพพลิเคชัน TikTOK ในลักษณะเชิญชวนให้ทำงานออนไลน์กดไลค์สินค้านของร้านค้าออนไลน์ใน Shoppy เพื่อจะได้ค่าตอบแทน เมื่อมีผู้สนใจการทำงานดังกล่าว ก็จะให้ผู้ที่สนใจกดแอดไลน์เป็นเพื่อนกับคนร้ายโดยคนร้ายใช้ชื่อแอดมินว่า “ผู้เชี่ยวชาญพิมพฺลภา” โดยคนร้ายจะให้ผู้ที่สนใจทำงานเกี่ยวกับการรีวิวสินค้าทางออนไลน์ แต่คนร้ายจะใช้กลอุบายด้วยการสร้างเงื่อนไขว่า ผู้ใดสนใจจะทำงาน ต้องทำการโอนสำรองเงินเข้าไปในระบบที่คนร้ายสร้างขึ้นก่อน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเบื้องต้น จึงได้ทดลองโอนเงินเข้าไปในระบบจำนวน 100 บาท ซึ่งเมื่อผู้เสียหายไปตรวจสอบในระบบแล้วก็พบว่ามียอดเงินเข้าอยู่จริง จึงหลงเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่างานนี้ทำได้ผลตอบแทนจริงตามที่คนร้ายหลอกลวง และเมื่อผู้เสียหายทำงานได้ครบตามภาระกิจที่คนร้ายแจ้งไว้แล้ว ผู้เสียหายได้พยายามจะถอนเงินออกจากระบบ แต่ทางแอดมินคนร้ายได้จะใช้กลอุบายต่างๆเพื่อบ่ายเบี่ยงว่ายังไม่สามารถถอนเงินได้ เช่น อ้างว่ายอดเงินในระบบยังไม่เพียงพอต่อการถอนถออก , อ้างว่าสลิปการโอนเงินไม่ครบถ้วน เพื่อให้ผู้เสียหายต้องทำการโอนเงินเพิ่มเข้าไปในระบบเพิ่มเติมอีก ต่อมาคนร้ายก็จะแจ้งผู้เสียหายให้ทราบว่า ไม่ทราบสาเหตุของระบบว่าเหตุใดจึงยังถอนเงินออกไปไม่ได้ แล้วให้ผู้เสียหายติดต่อแอดไลน์ของคนร้ายอีกคนที่อ้างว่าเป็นศูนย์ Advance โดยจะมีคนร้ายอีกคนพูดคุยว่าเป็นแอดมินของศูนย์ Advance พูดคุยใช้กลอุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเพื่อทำการโอนเงินเข้าไปในระบบอีกหลายๆครั้ง จนกว่าผู้เสียหายจะรู้ตัวหลงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ซึ่งในครั้งนี้ผู้เสียหายได้หลงเชื่อกลุ่มคนร้ายโอนเงินเข้าไปในระบบทั้งหมดจำนวน 6 ครั้ง รวมเป็นความเสียหาย 6,950 บาท (หกพันเก้าร้อยห้าสิบบาท) ซึ่งจากการตรวจสอบในระบบการแจ้งความออนไลน์ของ สตช. พบข้อมูลความเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้หลอกลวงผู้เสียหายในหลายๆพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก2.สอท.3 และพนักงานสอบสวนได้รวมรวมหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามหมายจับที่ จ.339/2565 ลง 1 พฤศจิกายน 2565 และในวันนี้(2 มี.ค.2566 )เวลาประมาณ 13.30น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท3 ได้ทำการสืบสวนจนพบว่าผู้ต้องหานี้ได้หลบหนีมากบดานสถานที่ดังกล่าว จึงได้เข้าไปทำการจับกุมตัวตามหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป