เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 2 มี.ค.2566 ที่สภ.เมืองขอนแก่น นายกัมปนาท จรัญเสริฐ ทนายความ ได้พาชาวบ้านจำนวน 9 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าจากกรณีที่ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายซื้อบ้านน็อคดาวน์ แล้วบริษัทสร้างไม่เสร็จ แต่เบิกเงินไปก่อน บางรายจ้างก่อสร้างบ้านราคา 2,000,000 บาท ได้เพียงฐานรากก็ทิ้งงาน
นายทศพล เชื้อสายใจ อยู่บ้านเลขที่ 77/88 ม.15 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้ว่าจ้าง หจก.รายหนึ่ง ซึ่งมีนายอารักษ์ (สงวนนามสกุล)เป็นเจ้าของ ตั้งสำนักงานอยู่ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ทำการสร้างบ้านให้ ในราคา 2,350,000 บาท โดยทำสัญญาว่าจ้างเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 โดยตามสัญญาจะมีการแบ่งจ่ายค่าจ้าง จำนวน 10 งวด งวดแรกจ่ายในวันทำสัญญา จำนวน 30000 บาท งวดต่อไปจ่ายงวดละ 235,000 บาท และงวดสุดท้ายจ่าย 87,500บาท
"หลังทำสัญญา บริษัทก็ส่งช่างมาทำการก่อสร้างโครงสร้าง ฐานราก จากนั้นก็จ่ายค่าจ้างในงวดที่สอง ซึ่งเจ้าของบริษัทก็เข้ามาดูการก่อสร้าง จากนั้นก็ไม่มา แต่การก่อสร้างยังคงดำเนินการไปจนครบสัญญา มีการจ่ายเงินค่าก่อสร้างไปเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท แต่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ จึงได้ติดตามทวงถามกับทางบริษัท ก็ไม่มีการส่งช่างมาสร้างต่อ จึงจำเป็นต้องซื้อวัสดุและจ้างช่างมาสร้างบ้านต่อด้วยตนเอง และมั่นใจว่า นายอารักษ์ ทิ้งงานและไม่มาสร้างบ้านให้แล้ว จึงนำหลักฐาน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น รวมถึงแต่งตั้งให้ทนายความมาติดตามความคืบหน้าทางคดีให้ด้วย"
ด้าน นายปัฐวีร์ ทองโยธีรวัฒน์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ซอย 29 ถนนศรีสวัสดิ์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ผู้เสียหาย กล่าวว่า มีอาชีพค้าขายเค้กในตัวเมืองมหาสารคาม และต้องการย้ายร้านมาขายที่บ้านตัวเอง โดยต้องการแยกร้านออกจากบ้านพัก จึงหาบ้านน็อคดาวมาตั้งขายเค้กในพื้นที่บ้านตัวเอง จึงได้เสิร์ชหาบ้านน็อคดาวน์ในโซเชียล จนพบกับเพจ หจก.รายดังกล่าวมีที่ตั้งอยู่ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น มี นายอารักษ์ (สงวนนามสกุล)เป็นเจ้าของ จึงได้พูดคุยและขอดูแบบบ้านตัวอย่างในบริษัท แต่แบบบ้านที่อยากได้ ไม่มี จึงให้บริษัทออกแบบบ้านให้ จนเป็นที่พอใจ
"วันที่ 27 มิ.ย. นายอารักษ์ ได้เดินทางไปพบที่บ้านใน จ.มหาสารคาม พร้อมทั้งทำสัญญาสร้างบ้านน็อคดาวน์ ตามที่ต้องการในราคา 640,000 บาท และบ้านต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.ค. 2565หรือเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนหลังวันทำสัญญาแต่เวลาผ่านไปจนครบ 2 เดือนบ้านก็ยังไม่นำส่ง จึงได้ติดต่อสอบถามไปยังนายอารักษ์ ซึ่งได้รับคำตอบว่า กำลังนำส่งให้ จากนั้นก็เห็นรถบรรทุกโครงเหล็กไปตั้งที่บ้าน ซึ่งไม่สามารถค้าขายหรืออาศัยอยู่ได้ จึงมีการทวงถาม ในส่วนที่เหลือ นานๆจะมีช่างอลูมีเนียม ไปติดให้ ส่วนเรื่องเงินนายอารักษ์ ก็จะมีการเบิกจ่ายมาตลอด แต่บ้านยังไม่แล้วเสร็จ และช่างที่มาติดตั้งอลูมิเนียมของบ้านน็อคดาวน์ ยังจะมารื้อเอาอลูมิเนียมออกจากบ้าน โดยอ้างว่า ทำงานเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ค่าจ้าง เพราะนายอารักษ์ ได้ประกาศหาช่างมาทำการติดตั้งอลูมิเนียมที่บ้านน็อคดาวน์ โดยบอกกับช่างว่า ติดตั้งเสร็จแล้วให้เก็บเงินกับเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะได้จ่ายค่าบ้านให้นายอารักษ์ ไปจนครบหมดแล้ว แต่บ้านไม่เสร็จ หากการจ้างช่างหรือารสร้างบ้านยะวงไม่เรียบร้อยนายอารักษ์ ต้องรับผิดชอบ แต่นายอารักษ์มาโยนความรับผิดชอบให้ จึงรู้ว่านายอารักษ์ ทิ้งงานไม่สร้างบ้านให้เสร็จ จึงได้ไปโพสในเพจของบริษัทของนายอารักษ์ จนมีผู้เสียหายที่เจอปัญหาเดียวกันมาคอมเม้นท์และทักมาคุยส่วนตัว รวมแล้ว 18 คน จึงได้ชวนกันตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมารวมตัวกัน และเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น พร้อมทั้งตั้งทนายขึ้นมาติดตามคดีให้ด้วย"
ด้าน นายกัมปนาท จรัญเสริฐ ทนายความ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายที่ซื้อบ้านน็อคดาวน์และจ้างบริษัทดังกล่าวมาสร้างบ้าน แต่สร้างไม่เสร็จ ทั้งที่รับเงินไปจนครบตามสัญญาจ้างแล้ว ผู้เสียหายบางรายจ่ายเงินไป 2 ล้านบาท แต่ได้เพียงเสาและโครงสร้าง ซึ่งไม่ทราบว่าบริษัทประสบปัญหาในเรื่องใดหรือไม่ ซึ่งได้เก็บข้อมูลรายละเอียดจากผู้เสียหาย เพื่อนำเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากว้าในคดีดังกล่าวนั้น มีทั้งแพ่งและอาญา จึงต้องแยกกันเป็นสองส่วน แต่หากผู้เสียหาย รวมตัวแจ้งความหลายรายก็อาจจะเป็นคดีฉ้อโกงได้