วันที่ 28 ก.พ.66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม ไม่เทรวม ในโครงการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในพิธี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมปี 2566 "รัฐสภาสีเขียว มุ่งสู่องค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน" นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำเสนอ "ทิศทางการนำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมไปสู่การปฏิบัติ มุ่งสู่การเป็นรัฐสภาสีเขียวอย่างยั่งยืน" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำเสนอ "โครงการไม่เทรวม" และมอบถังขยะแยกประเภทให้กับสภาผู้แทนราษฎรไปใช้ในกิจกรรม มีผู้บริหาร หน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธีลงนามและกิจกรรม ณ ห้องสัมมนา B1-1 และบริเวณห้องโถง ชั้น B1 อาคารรัฐสภา

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า กรุงเทพฯ มีขยะ 1 หมื่นตันต่อวัน ชาวกรุงเทพฯ 1 คนเราผลิตขยะ วันละ 1.5 กิโลกรัม เฉลี่ย 1 ปี เกือบ 1 ตัน เราเสียเงินไปกับการจัดการขยะปีละ 7,000 ล้านบาท มากกว่าจำนวนที่ใช้กับเรื่องการศึกษา 4,000 ล้านบาท และด้านสาธารณสุข 6,000 ล้านบาท เราควรเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งที่มีมูลค่า อีกทั้งขยะยังทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ในการฝังกลบจะสร้างก๊าซมีเทนที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก หากเทรวมจะทำให้เกิดก๊าซมีเทนมหาศาล และขยะรีไซเคิลก็ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ต้องผลิตใหม่ สร้างก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอีก การแก้ปัญหาด้วยการแยกขยะจึงเป็นแนวทางเบื้องต้นที่ทำได้ ปัจจุบันเรามีขยะเปียก 40% ของขยะทั้งหมด ถ้าแยกได้ ก็จะสามารถนำขยะรีไซเคิลกลับมาใช้ได้ ลดปริมาณขยะลง 

“ กทม. มีโครงการ “ไม่เทรวม” เริ่มมาตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ นำร่องใน 3 เขต ปทุมวัน พญาไท และหนองแขม เก็บขยะได้วันละ 50 ตัน แยกขยะได้ 10% ถือว่าไม่มาก เป็นเรื่องพฤติกรรม ประชาชนเริ่มมาสนใจมากขึ้น ระยะต่อไปเราจะเริ่มในสถานที่สำคัญ เช่นสภาฯ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญมีคนจำนวนมากมารวมกัน มี ส.ส. 500 ท่านจากจังหวัดต่างๆมารวมกัน ถ้าเข้าใจแนวคิดขยายต่อไปทั้งประเทศได้จะดีมาก วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่เริ่มที่รัฐสภาก่อน หากทำได้จะช่วยลดงบประมาณ นำเงินไปช่วยเด็ก ช่วยการศึกษา ช่วยผู้สูงอายุได้ กทม.ยินดีร่วมมือกับทางสภาฯ ทุกเรื่อง “ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว 

 

          สำหรับโครงการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นการขยายผลจากที่ได้ประกาศ "รัฐสภาร่วมใจ มุ่งสู่การเป็นรัฐสภาสีเขียวอย่างยั่งยืน" ในปี 2565 โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นสำนักงานสีเขียว (Green Office) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาก๊าซเรือนกระจก จากกระบวนการจัดการขยะมูลฝอยด้วยการฝังกลบ ที่ถือเป็นแหล่งกำเนิดและสาเหตุหลักที่เร่งให้เกิดภาวะเรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนกลายเป็นภาวะโลกร้อน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ในปี 2566จึงได้ต่อยอดมีโครงการดังกล่าวขึ้น โดยร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตดุสิต จัดกิจกรรมนำร่อง "ไม่เทรวม" เพื่อส่งเสริมการทิ้งขยะ คัดแยกขยะแต่ละประเภทอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งสมาชิกรัฐสภา ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง ผู้ประกอบการ ร้านค้า ผู้มาใช้บริการ แม่บ้าน ผู้รับจ้าง ได้ทราบและปฏิบัติตามกระบวนการจัดการของเสีย การทิ้งและคัดแยกขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตลอดจนเพื่อลดปริมาณขยะของสำนักงานฯ อันจะส่งผลให้ปริมาณก๊าชเรือนกระจกลดลง