ชาวบ้าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ไม่สบายใจ หลังมีคนแอบนำศาลพระพรหมขนาดใหญ่ และรูปปั้นท้าวมหาพรหม มาทิ้งข้างทางเหมือนกองขยะ นำธูปเทียนขันธ์ 5 ไหว้บอกกล่าวขอขมา พร้อมขอโชคลาภ หากดวงดีถูกหวย จะหาสถานที่ตั้งที่เหมาะสมให้ผู้คนกราบไหว้บูชา
(25 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาว่า มีคนแอบนำศาลพระพรหม ขนาดใหญ่ และรูปปั้นท้าวมหาพรหม มาทิ้งไว้ริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 ช่วงบริเวณกิโลเมตรที่ 132 จุดยูเทินเข้าบ้านบุไร่อ้อย ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านที่ผ่านไปมา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็พบเศษชิ้นส่วนของศาลพระพรหมขนาดใหญ่ และรูปปั้นท้าวมหาพรหม ปางประทานพร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า พระพรหมสี่หน้า ถูกกองทิ้งรวมกันไว้ริมถนนเหมือนกับกองขยะริมทางจริง ชาวบ้านจึงได้พากันนำดอกไม้ธูปเทียนทำขันธ์ 5 ไปกราบไหว้บอกกล่าวขอขมาตามความเชื่อ เพราะถือว่าศาลพระพรหม รวมทั้งรูปปั้นที่พบเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรจะนำมาทิ้งแบบนี้
แต่จากการสำรวจพบว่าทุกชิ้นที่นำมาทิ้งยังมีสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ได้แตกหัก จึงสันนิษฐานว่าคนที่นำมาทิ้งอาจจะเป็นเจ้าของบ้านคนใหญ่ซึ่งศาลอาจจะเป็นของคนเดิม แต่เขาอาจจะไม่ได้นับถืออะไรลักษณะนี้ เพราะรูปปั้นท้าวมหาพรหมหรือพระพรหมเป็นของศาสนาฮินดู หรืออาจเพราะร่างทรงทักท้วงแล้วนำมาทิ้งหรือไม่ ก็เป็นแค่การสันนิษฐานเท่านั้น เพราะก็ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของคนที่เอามาทิ้ง
สอบถามนางแต๋ว สัญจร อายุ 64 ปี ชาวบ้านพูนสุข บอกว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีคนนำศาลพระพรหมและรูปปั้นท้าวมหาพรหมมาทิ้งไว้ริมทาง ก็เดินทางมาดูพอเห็นรู้สึกแปลกใจ เพราะเขากองทิ้งไว้เหมือนเศษขยะ คือถ้าทิ้งแค่ฐานปูนก็คงไม่เป็นไรแต่นี้มีรูปปั้นพระมาทิ้งด้วยก็ไม่สบายใจเพราะถือเป็นของสูง จึงได้พากันมาจุดธูปขอขมารู้สึกขนลุก ก็อยากจะบูรณะหรือหาสถานที่ใหม่ที่เหมาะสมสะอาดให้อยู่แต่ก็ไม่มีเงิน จึงได้ไหว้ขอโชคลาภกับรูปปั้นท้าวมหาพรหมดังกล่าว หากดวงดีถูกหวยก็จะพาไปอยู่ที่ไหนและบูรณะตกแต่งให้สวยงาม ให้ผู้คนได้กราบไหว้
ด้านนางรสชรินทร์ ขำเอนก อายุ 44 ปี ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมีใครเอาศาลพระพรหมโดยเฉพาะรูปปั้นท้าวมหาพรหม มาทิ้งแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นแค่ศาลเล็กๆ ที่ชำรุดแล้ว แต่นี้ยังสภาพสมบูรณ์ก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรเขาถึงเอามาทิ้ง จึงได้พากันเอาขันธ์ 5 ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำเปล่า น้ำแดง มาถวาย และบอกกล่าวขอขมาตามความเชื่อ ซึ่งตอนไหว้ก็รู้สึกขนลุก ซึ่งหากตนได้โชคลาภ ก็จะร่วมกับชาวบ้านนำศาลดังกล่าวไปตั้งไว้สถานที่ที่เหมาะสมและบูรณะให้สวยงาม ให้ผู้คนได้กราบไหว้