25 กุมภาพันธ์ 2566 – นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการใช้เงินของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจจะไม่ถูกต้องนั้น

ได้มอบหมายให้ นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการเลขาธิการ สกสค. ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยนายพิเชฐ ได้รายงานเบื้องต้นว่า การอนุมัติใช้วงเงินดังกล่าว เป็นไปอย่างถูกต้องตรงตามเป้าหมาย เพราะ สกสค.เป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีภารกิจในการส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูลและความมั่นคง ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติครูและบุคลาการทางการศึกษา เพื่อให้ครูฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูก็เป็นนโยบายรัฐบาล นโยบาย ศธ. ที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องและให้ความสำคัญมาโดยตลอด

ดังนั้น เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ได้เสนอโครงการมาขอสนับสนุนงบประมาณจาก สกสค. และ สกสค.ได้วิเคราะห์ทั้ง 2 กิจกรรมแล้ว เห็นว่ามีเป้าหมายที่ตรงกัน ครูจะได้รับประโยชน์จริง จะมีผลดีทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

รมว.ศธ กล่าวต่อไปว่า สกสค.ได้วิเคราะห์ว่าโครงการที่เสนอมาสอดคล้องกับภารกิจของ สกสค. สอดคล้องนโยบายกระทรวง และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล เป็นไปตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มาตรา 62 และตามข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค. ว่าด้วยเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. พ.ศ. 2565 ประกอบกับเห็นว่า ศธ.เป็นหน่วยงานหลัก และมีเอกภาพในการบังคับบัญชาหน่วยงานด้านการศึกษาทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน มีการจัดตั้งสถานีแก้หนี้ทุกจังหวัด และลงไปถึงระดับเขตพื้นที่การศึกษา และ สกสค. มีภารกิจในการจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพ แก่ครูฯ จึงเห็นสมควรบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อคุณภาพชีวิตครูฯ อันจะส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน

สกสค.จึงเสนอโครงการในร่างแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ต่อคณะกรรมการ สกสค.และได้รับอนุมัติให้ดำเนินการจากคณะกรรมการฯ โดยมี 2 กิจกรรม ดังนี้ 1) การอบรมพัฒนาครูฯ เพื่อสร้างวินัยทางการเงินสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) อุดหนุนกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ภายใต้โครงการการจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย “Unlock a better life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า การส่งเสริมสนับสนุนสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา และบอร์ด สกสค.อนุมัติให้ดำเนินโครงการ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเลย

“ในการดำเนินโครงการ สกสค. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ เพื่อทำหน้าที่กำกับ ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งขณะนี้การอบรมพัฒนาครูฯ อยู่ระหว่างการจัดทำ (ร่าง) ขอบเขตของงาน หรือ TOR ของคณะกรรมการ ซึ่งมีองค์ประกอบจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อครูฯ

ส่วนการอุดหนุนกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ภายใต้โครงการการจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย “Unlock a better life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า สป.ศธ.ได้จัดทำแผนการดำเนินงานในโครงการดังกล่าวเสนอ สกสค.แล้ว ซึ่งดิฉันได้กำชับไปว่าในการดำเนินงานตามโครงการนี้ทั้ง 2 กิจกรรม ขอให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้” นางสาวตรีนุช กล่าว