เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยนำโดย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.สจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นเวทีปราศรัยกับพี่น้องชาวบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราโดยมีพี่น้องมารับฟังอย่างอบอุ่น
นายจาตุรนต์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีความผูกพันและยึดโยงกับพี่น้องมายาวนานเพราะนโยบายพรรคเพื่อไทยทำให้คนทั่วประเทศเห็นว่าประชาธิปไตยกินได้เป็นอย่างไร เรามีนโยบายกองทุนหมู่บ้าน นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคและอีกทุกนโยบายที่เริ่มทำทันที่ตั้งแต่ปีแรกและสำเร็จทั้งหมดใน 4 ปี นโยบายของเพื่อไทยเป็นประโยชน์กับทุกคน ไม่ใช่แค่คนอีสาน แต่สำหรับคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับพี่น้องที่ลำบากยากจน คนรากหญ้า ไม่ใช่เพื่อนายทุน วันนี้ถ้าเราอยากให้นโยบายพรรคเพื่อไทยกลับมาสร้างอนาคต สร้างความกินดีอยู่ดี คนฉะเชิงเทราอยากลืมตาอ้าปากด้วยนโยบายประชาธิปไตยกินได้ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย กาทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้ฉะเชิงเทราแลนด์สไลด์ร่วมไปกับพี่น้องเราทั้งแผ่นดิน
นายสุทิน กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลวันนี้คือคำประกาศของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ทำให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจในการทำงานของตนที่ผ่านมาว่าดีเพียงพอ และหลายโครงการเป็นแค่การกู้เงินมาแจกให้ประชาชน ไม่ได้เป็นการบริหารงานสร้างรายได้ ถ้าพลเอกประยุทธ์เป็นต่อ จะมีแต่นโยบายที่ผิดพลาดและสร้างหนี้สินให้ประชาชนมากขึ้น
“พรรคเพื่อไทย เราคิดแต่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ สร้างเงินให้พี่น้อง หาค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน รายได้ปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท รวมถึงเบี้ยผู้สูงอายุ และจะหาทางลดรายจ่าย ปลดหนี้ให้พี่น้อง เราไม่ได้คิดแต่เอาบัตรมาแจกพี่น้องกินไปวันวัน กู้มาแจกเรื่อยๆ แบบนี้เราไม่ทำ” รองหัวหน้าพรรค กล่าว
นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่าด้วยความที่คุณพ่อเป็นอดีต ส.ส. พ่อปลูกฝังผมเสมอมาว่า ผู้แทนที่ดีต้องอุทิศตนให้ประชาชน เวลามีคนเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ เราจึงพยายามหาทางช่วยเหลือเขาในทุกวิถีทาง หลายครั้งหลายเรื่องที่บางครั้งเราอาจช่วยเขาไม่ได้เราก็พลอยไม่สบายใจ เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องนโยบาย เรื่องระดับประเทศ เราต้องใช้พรรคการเมือง ใช้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรแก้ปัญหาระดับโครงสร้าง
“การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะให้ขาด ต้องไม่ทำให้คะแนนเสียงทุกเสียงตกน้ำ จากการเลือกแบบเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic voting) ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ทำได้ทุกนโยบาย ทำสำเร็จ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอีกครั้ง” นายวุฒิพงศ์ กล่าว