การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญและต้องใส่ใจดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ห่างไกลจากโรค และ ลดพึ่งพาการใช้ยา เป็นเป้าหมายหลักสำคัญที่การอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตนวัตกรรมการจัดการสุขภาพยุคดิจิทัล หรือ HIDA รุ่นที่ 2 ได้นำมาใช้ในการบรรยายงานวิชาการด้านสุขภาพแบบศาสตร์องค์รวมแบบครบวงจร เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ในสัปดาห์นี้ เป็นการบรรยายวิชาการให้ความรู้เรื่องปัญหาโรคข้อต่างๆ รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลอาการปวดจากโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ รศ.พญ.วันรัชดา คัชมาตย์ หัวหน้าสาขาวิชาโรคข้อและรูมาติสซั่ม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โรคข้อต่างๆที่พบได้บ่อย คือ โรคเก๊าต์ เกิดจากในร่างกายมีกรดยูริคตกเข้าไปในข้อ บริเวณเนื้อเยื่อรอบๆข้อและอวัยวะต่างๆ เช่นเส้นเอ็นชั้นผิวหนัง ที่รับกรดยูริคมากเกินไป หรือ รับปกติ แต่มีการขับถ่ายออกจากร่างกายน้อยเกินไป โดยค่าปกติของกรดยูริคอยู่ที่ 6.8
ทั้งนี้ โรคเก๊าต์ พบบ่อยในกลุ่มผู้ชายในอายุ 30 ปีขึ้นไป ส่วนเพศหญิงพบในวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการ รับประทานอาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเลทุกชนิดยกเว้นปลา สุรา น้ำหวาน เหล้า เบียร์ และ น้ำผลไม้ที่มีฟรุกโตสมากเกินไป รวมถึง โรคประจำตัวหลายอย่างที่ทำให้กรดยูริคสูง เช่น โรคไต โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ และ การกินยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ แอสไพริน รวมถึง ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเก๊าต์
อาการที่พบ เริ่มแรกไม่มีอาการแต่ตรวจพบได้จากการตรวจร่างกายประจำปี หากเริ่มมีอาการ หรือ สัญญาณบ่งชี้ เช่น ปวดข้อเป็นๆหายๆ จากนั้นเริ่มมีอาการหนักขึ้น เช่นปวดตามข้อหนักขึ้น บริเวณร่างกายมีตุ่มมีก้อนขึ้น เช่น เท้า หัวเข่า ใบหู หลัง และ อาการขั้นหนักสุด คือ กรดยูริคมีการสะสมที่ไตทำให้ต้องล้างไต สำหรับการรักษาโรคเก๊าต์ใช้วิธีการกินยา ไม่ต้องผ่าตัด แพทย์ใช้การวินิจฉัยโดยการเจาะข้อเพื่อเอาน้ำในข้อมาตรวจ จากนั้นใช้วิธีรักษาด้วยการใช้ยาที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อลดอาการปวด ลดการอักเสบ หากมีอาการปวดข้อมากๆ ให้พัก ลดการใช้งาน ห้ามบีบนวด ไม่มีการประคบ วิธีปฏิบัติตัว หากมีน้ำหนักเกิดให้ลดน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ควบคุมการรับประทานอาหาร ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเก๊าต์สามารถทานเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกได้ทุกชนิดแต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เช่นบริโภคเนื้อสัตว์ไม่เกินขนาด 6 ออนซ์ ยกเว้น เครื่องในสัตว์ รวมถึง ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเก๊าต์โดยสมาชิกในครอบครัวต้องไปตรวจคัดกรอง
นอกจากนี้ ยังมี โรคเก๊าต์เทียม พบได้ในคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ซึ่งเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนในร่างกายเกิดการเสื่อมทำให้เกิดผลึกแคลเซียมไปตกในข้อ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หากมีอาการหนักขึ้นจะมีอาการปวดข้อตามร่างกาย บริเวณข้อเกิดการอักเสบ วินิจฉัยโดยการเจาะน้ำในข้อไปตรวจ ส่วนวิธีการรักษาแพทย์ให้ใช้ยาลดการอักเสบ การปฏิบัติตัว ควรพักการใช้งานของร่างกาย หากมีอาการร้อนที่บริเวณสามารถใช้การประคบเย็นได้
และ โรคข้อเสื่อม เกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ ทำให้กระดูกที่อยู่ใต้กระดูกอ่อนเสียดสีกันในขณะขยับร่างกาย ปัจจัยเสี่ยง อายุมากขึ้น น้ำหนักเกินเกฑณ์หรืออ้วน กรรมพันธุ์อาชีพ เช่น ผู้ที่ใช้แรงงาน ชาวนา นักกีฬา ข้อผิดรูปแต่กำเนิดเช่นขาโก่ง และ การเป็นโรคเก๊าต์ รวมถึง ร่างกายขาดวิตามินดีและซี ทำให้กระดูกอ่อนเสื่อมเร็วขึ้น
อาการที่พบ คือ มีอาการปวดเมื่อยตามข้อแต่เมื่อหยุดพักอาการจะดีขึ้น ในขณะเคลื่อนไหว จะมีเสียงบริเวณตามข้อ เช่นขณะเดินหรือวิ่ง ข้อฝืดแข็ง มีการเดินหนักทำให้เกิดอาการอักเสบ เมื่อมีอาการหนักขึ้น จะเหยียดอวัยวะไม่ยืดตรง เช่น นิ้ว ขา มีกระดูกงอกที่บริเวณนิ้วมือและเท้า และผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยๆ ทำให้เกิดนิ้วเกและเสี่ยงเป็นข้อเสื่อม โดยแพทย์จะใช้วิธีรักษาด้วยการใช้ยา เช่น ยาแก้ปวด ยาทา หากมีอาการหนัก หรือ กระดูกงอก ต้องใช้วิธีการผ่าตัด ส่วนการฉีดน้ำเข้าข้อ สามารถทำได้แต่ช่วยบรรเทาอาการได้ 6 เดือน
สำหรับวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคข้อเสื่อม ลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรรับประทานอาหารเช้า เนื่องจากเป็นมื้อสำคัญ เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำตาล หากไม่ทานอาหารเช้าจะเสี่ยงเป็นโรคสมอง โรคอัลไซเมอร์ การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อกระชับ เช่น ยกกล้ามเนื้อเข่า ยกกล้ามเนื้อหน้าท้อง การใช้อุปกรณ์พยุงข้อ ไม่ควรใช้สนับเข่า เพราะจะทำให้เข่าลีบ และ เกิดเส้นเลือดขอด หลีกเลี่ยงการบิดข้อเล่น เช่น ดัดนิ้ว นั่งยอง เลือกใช้ข้อใหญ่แทนข้อเล็กแทนการใช้นิ้วมือถือสิ่งของ การยืนนั่งให้ถูกสุขลักษณะช่วยผ่อนแรงไปยังข้อต่างๆ
แพทย์หญิงดลฤดี ศรีศุภผล แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวถึง อาการปวดจากโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ ว่า อาการปวดที่พบได้บ่อยคือ ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดเข่า และปวดเท้าซึ่งพบบ่อยในผู้หญิงที่นิยมใสรองเท้าส้นสูง ทำให้เกิดปัญหานิ้วเท้าก่ายกัน ทำให้เกิดตาปลาและเชื้อรา วิธีแก้ให้ใส่รองเท้าหน้ากว้าง
สำหรับอาการปวดคอ ที่พบบ่อยในกลุ่มคนทั่วไป เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เช่น มีอาการปวดชา กระดูกสันหลังเสื่อม และ ออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากมีการเกร็งกล้ามเนื้อจุดเดิมซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆไม่คลายตัว ทำให้เกิดอาการร้าวตามแขน สาเหตุเกิดจาก การใช้ท่าทางที่ผิดปกติ การใช้งานผิดปกติ อุบัติเหตุและความเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น
อาการปวดหลัง เช่น ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม และ กระดูกพรุนซึ่งเกิดจากมวลกระดูกและความหนาแน่นของกระดูกลดลง ปัจจัยเสี่ยงเกิดจาก อายุมากขึ้น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หลังอายุ 35 ปี มวลกระดูกจะเริ่มลดลง ประวัติครอบครัวมีภาวะกระดูกพรุน และ กินแคลเซียม กินวิตามิน กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์น้อยเกินไป เนื่องจาก โปรตีนจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อซึ่งจะมีส่วนช่วยพยุงกระดูกและข้อต่อ ดังนั้นควรบริโภคโปรตีนอย่างน้อย 50 กรัมต่อวัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการปวดหลัง เช่น การนั่งไขว้ห้าง ใส่ส้นสูง ท่านั่งที่ผิดปกติ ทำให้กล้ามเนื้องอตรงสะโพกจะหดตึงมากทำให้ปวดหลังตึงขา ก้มหลังยกของ ปัจจัยที่แก้ไขได้ ควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นั่งทำงานให้ถูกท่า หากมีอาการปวดฉับพลันทันที ให้ใช้ความเย็นประคบ พักการใช้งาน และ กินยาเพื่อลดอาการปวดและลดการอักเสบ ปัจจุบันนิยมใช้ 2 ประเภท กลุ่มยากระดูกและกล้ามเนื้อ เป็นยาที่กัดกระเพราะ ไม่ควรกินยาขณะท้องว่าง มีผลต่อตับและไต ควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง และ กลุ่มยาลดปวดเส้นประสาท หากไม่กินยาจะใช้วิธีรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด เช่น การแช่พาราฟิน การทำอัลตราซาวน์ การทำช็อตเวฟ เป็นการรักษาโดยใช้ความร้อนลึกให้ลงถึงชั้นหมอนรองกระดูก การทำเลเซอร์ใช้แสง เสียง เพื่อลดการอักเสบรักษาระดับเซลล์ กระตุ้นไฟฟ้าลดปวดเส้นประสาท การทำช็อคเวฟขับสารของเสียให้ออกไปจากร่างกาย กระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้ารักษาอาการปวดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท นอกจากนี้ ใช้วิธีดึงคอ ดึงหลัง และ การนวด เพื่อลดอาการปวดและทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น อย่างไรก็ตาม วิธีการลดปวดที่ดี คือ การยืดกล้ามเนื้อ และ การสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง สะโพก นอกจากนี้ วิธีรักษาอาการปวดคอ ปวดหลัง ยังมีการใช้วิธีฝังเข็ม ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ หากรักษาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นต้องใช้วิธีการผ่าตัด
อาการปวดไหล่ พบบ่อยที่สุดเมื่ออายุมากขึ้นจะเกิดเอ็นฉีกขาดง่าย มีอาการข้อติด เอ็นไหล่อักเสบ หลักการรักษาเมื่อมีอาการปวดไหล่ฉับพลันให้หยุดพัก แล้วใช้วิธีประคบเย็น และ กินยาลดอาการปวดลดการอักเสบ หากมีอาการบาดเจ็บนานเกิน 3 เดือนต้องใช้วิธีฉีดยา หรือ ใช้วิธีกายภาพบำบัด
และ อาการปวดเข่า นอกจากภาวะเข่าเสื่อมแล้ว อาการปวดเข่ายังเกิดได้จาก อายุ กรรมพันธุ์ ความผิดรูปของข้อ และ อุบัติเหตุ รวมถึง เอ็นกระดูกและข้อที่มีอาการบาดเจ็บสะสม วิธีรักษากินยาลดปวด กินยาลดอักเสบแบบเฉียบพลัน กินยาบำรุงข้อ ฉีดยาหล่อเลี้ยงข้อที่มีระยะเวลา 6-12 เดือน และ ใช้วิธีกายภาพบำบัด
แพทย์หญิงดลฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการปวดส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตในประจำวันซึ่งสามารถแก้ไขได้และป้องกันได้ และก่อนที่จะมีการออกกำลังกายจะต้องมีการยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ส่วนวิธีการยืดกล้ามเนื้อที่ถูกต้องทุกคนสามารถทำได้ แต่ควรจะมีการปรึกษานักกายภาพบำบัด เพื่อตรวจเชกว่า ร่างกายของเราควรจะใช้วิธีการยืดกล้ามเนื้อวิธีใดเพื่อความเหมาะสมของร่างกาย