บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้า “KC” รายงานผลประกอบการปี 2565 รายได้รวม 2,949.4 ล้านบาท กำไร 125.1 ล้านบาท บอร์ดมีมติจัดประชุม AGM 20 เม.ย. 2566 และเคาะจ่ายปันผล 0.10 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 19 พ.ค. 2566

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา SUN ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยบริษัทมีรายได้รวม  2,949.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 125.1 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยเสริมทั้งภายในและภายนอก เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการผ่อนคลายสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ลดลง ทำให้ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น จึงสามารถขยายตลาดได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศจากกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (Ready to eat) โดยในปี 2565 บริษัทได้แตกไลน์สินค้า RTE ให้หลากหลาย โดยเพิ่ม Item ใหม่ อาทิ มันฝรั่งอบเนย ซุปฟักทอง และกล้วยน้ำว้าหนึบ ที่เชื่อมโยงธุรกิจกับวิสาหกิจชุมชน ในการแปรรูปสินค้าเกษตร และพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคสาย Healthy ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ในขณะที่สินค้าส่งออก ได้มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ แถบภูมิภาคเอเชีย และยุโรป โดยเป็นสินค้าในกลุ่มข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง และข้าวโพดหวานแช่แข็ง ซึ่งลูกค้าต่างประเทศยังคงเชื่อมั่นในมาตรฐานสินค้าที่ดี และการส่งมอบสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ฐานะการเงินของบริษัทเติบโตขึ้นตามเป้าหมาย

สำหรับในปี 2566 บริษัทได้เดินหน้าธุรกิจตามแผนกลยุทธ์วางไว้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาภาพลักษณ์ของสินค้าอาหารปลอดภัยที่มีคุณภาพ ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาคเอกชน และภาควิชาการในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่เพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการผลิตและติดตั้งเครื่องจักร อาทิ เครื่องฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิสูงแบบต่อเนื่อง (Hydrolock), เครื่องตรวจสอบสิ่งปนเปื้อนด้วย X-Ray และ โครงการ Big Can Packing Automation Line เป็นต้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มคุณภาพสินค้า บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับปริมาณวัตถุดิบให้สามารถผลิตได้เต็มกำลังยิ่งขึ้น และลดการใช้พลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสริมในการขยายการผลิตให้เต็มศักยภาพ สอดรับกับดีมานด์ของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่มขึ้น จากการรุกตลาดในกลุ่มธุรกิจ HORECA คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 10-15% และเพิ่มรายได้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 ได้มติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 ในวันที่ 20 เม.ย. 2566 อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 เม.ย. 2566 และจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค. 2566