นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เริ่มเดินเรือคลองผดุงฯอีกครั้ง หลังจากได้ทบทวนแล้ว พบว่ายังมีความต้องการใช้บริการอยู่ ประกอบกับผู้ให้บริการยอมลดราคาลง จากเดิมค่าจ้างเดินเรือเดือนละ 2,400,000 บาท มีผู้โดยสารเฉลี่ย 400 คนต่อวัน คิดต้นทุนในการขนส่ง 1 คน/170บาท ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาเรือเป็นเงินที่สูงจึงต้องทบทวนและหยุดให้บริการชั่วคราว ปัจจุบันผู้ให้บริการได้ลดค่าจ้างเดินเรือลง 1,800,000 บาท/เดือนรวมค่าบำรุงรักษา โดยจะทดลองเดินเรือ 1 ปี เพื่อประเมินความต้องการของผู้โดยสารว่าจะมีเพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงอย่างไร เนื่องจากพบข้อเสียคือ เรือเดินช้า ไม่คล่องตัว มีที่โดยสารประมาณ 40 ที่นั่งต่อเที่ยว มีข้อจำกัดต้องชาร์จไฟ แบตเตอรี่เก่าจุไฟได้น้อย ซึ่งต้องซ่อมแบตเตอรี่ให้พอใช้งานได้ 1 ปี หากเปลี่ยนใหม่ต้องใช้งบประมาณ 800,000 - 1,000,000 บาทต่อเรือ 1 ลำ ซึ่งมีการเสนอการเดินเรือแท็กซี่ควบคู่กัน มีขนาดเล็กกว่า คล่องตัว กทม.จึงเปิดโอกาสให้ทดลองการเดินเรือรูปแบบใหม่ โดยใช้เวลา 1 ปี เพื่อหาความเหมาะสมให้กับลักษณะการใช้บริการ และสอดคล้องกับสภาพของคลองผดุงฯ

นายวิศณุ กล่าวว่า สำหรับเรือแท็กซี่ที่มาทดลองวิ่ง ไม่กังวลว่าจะมาแย่งผู้โดยสารจากเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯเดิมที่มีอยู่ เพราะเรือไฟฟ้าปัจจุบันเปิดให้บริการฟรีไม่คิดค่าโดยสาร ขณะที่เรือแท็กซี่ของเอกชนมีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารยอมจ่ายค่าโดยสารให้เรือแท็กซี่เนื่องจากความสะดวก สามารถเรียกมารับจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งได้ตามระบบแอพพลิเคชั่น สามารถแวะรับผู้โดยสารระหว่างทางที่ไปทางเดียวกันซึ่งเหมาะกับการให้บริการที่คลองผดุงฯ เพราะจำกัดเส้นทางจากท่าหัวลำโพงไปท่าเทวราชเท่านั้น หากได้ผลดี กทม.อาจหยุดให้บริการเรือไฟฟ้าลง เพื่อนำงบประมาณไปทำเรื่องอื่นและอาจขยายการให้บริการเรือแท็กซี่ในคลองอื่นๆ เช่น คลองภาษีเจริญ ซึ่งยังอยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อตอบสนองคนในพื้นที่ได้จริง