วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ขอนพุทรา รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รุดเดินทางมาตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ สามารถจับกุมแก๊งลักลอบขนคนต่างด้าว เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหาคนไทย คือ นายภูพล ,นายทวี และ น.ส.กันติชา พร้อมของกลางรถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีบอนซ์ ป้ายทะเบียนฟ้า หมายเลข กข 2021 กรุงเทพ รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบอนซ์ ติดสติ๊กเกอร์ กองพัฒนาการกองทัพไทย หมายเลขทะเบียน 5 กพ 8165 กรุงเทพ และรถยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ติดตราโล่ห์ หมายเลขทะเบียน ชต 2202 กรุงเทพ ส่วนต่างด้าวที่ถูกจับได้ พบว่า เป็นคนจีน 14 คน และทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ จึงได้ติดต่อล่ามที่พูดคุยภาษาจีนได้ มาร่วมกันสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องมากจากเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้มีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ฝั่งขาขึ้น บริเวณหน้าศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค 6 ก็พบรถยนต์ตามขับกลางที่ถูกจับได้ 3 คัน ขับเรียงติดต่อกันเข้ามายังด่าน จึงได้เรียกตรวจผู้ขับรถทั้ง 3 คัน มาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่เห็นคนภายในรถมีเยอะผิดสังเกต จึงได้เข้าไปสอบถามก่อนที่จะพบว่า คนโดยสารภายในรถทั้ง 3 คันเป็นคนจีนทั้งหมด จึงได้เรียกให้ลงจากรถเพื่อขอตรวจเอกสารการเข้าเมือง ปรากฏว่า ทั้งหมดไม่มี จึงได้ควบคุมตัวทั้งคนไทยและคนจีนทั้งหมดมาสอบปากคำยังโรงพัก
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 3 ราย ต่างอ้างว่า มีอาชีพให้บริการรถขนส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่ใช่แก๊งลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมกับยืนยันอีกว่า ได้รับการว่าจ้างจากคนไทยไม่ทราบชื่อ ให้รับนักท่องเที่ยวชาวจีนจากกรุงเทพ พาไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่ค่าจ้างจะคนละราคาแตกต่างกันไป โดยรถฟอร์จูนเนอร์ ได้ค่าจ้างในการส่งคนรอบนี้ 1 หมื่นบาท รถเก๋งแคมรี่ 8 พันบาท และอัสติส 6 พันบาท แต่ในทางสอบปากคำของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ ไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 อย่างเคร่งเครียด ในการขยายผลการจับกุม เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งทำกันเป็นขบวนกา ในการขนชาวจีนเตรียมไปส่งข้ามแดน เพื่อไปเป็นแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านนางอาทอง นาจู้ ชาวมูเซอร์ ที่เดินทางมาทำหน้าที่เป็นล่ามในการร่วมสอบสวนกับตำรวจ เปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบถามชาวจีนทั้งหมด อ้างต้องการจะมาท่องเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้นั่งรถไฟจากประเทศจีนเดินทางข้ามประเทศมาถึงไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศได้อย่างไร เพราะทุกคนไม่มีหนังสือเดินทางใดๆ มีเพียงบัตรประชาชนของประเทศจีนเพียงเท่านั้น เมื่อตนสอบถามว่ามาถึงจุดไหนของเมืองไทยก่อน ทั้งหมดต่างก็บอกไม่รู้ไม่ และไม่ทราบอะไรสักอย่าง รู้เพียงอย่างเดียวว่ามีคนให้นั่งรถมา เพื่อเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 3 ราย ฐานเป็นบุคคลช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผล ส่วนต่างด้าวชาวจีนทั้ง 14 คน ถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งล่าสุด ได้มีการนำชาวจีนทั้งหมดส่งให้กับตำรวจ ตม. เพื่อทำประวัติก่อนจะผลักดันให้ออกนอกประเทศต่อไป