เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ก.พ. 2566 ที่วัดเขาตาหน่วย จังหวัดจันทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สักการะพระประธานในพระอุโบสถ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดเขาตาหน่วย ก่อนชมการแสดงฟ้อนรำของชาวบ้านอย่างอารมณ์ดี และนายกฯได้ร่วมตีฆ้องอย่างสนุกสนาน
จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมกลุ่มฝีมือแรงงาน โดยชาวบ้าน กล่าวว่า “นายกฯตัวจริงหล่อมาก และยังหนุ่ม” ซึ่งนายกฯได้ตอบกลับว่า “พยายามจะทำตัวให้หนุ่มตลอด” พร้อมชมประชาชนกลับว่า “สวยทุกคน” และกล่าวอีกว่า อย่ามองคนด้วยความหล่อ ความสวยอย่างเดียวให้มองความดีที่เขาทำ ระหว่างนี้ประชาชนกล่าวว่า “ถ้าไม่ดีก็ไม่มารับ” ทำให้นายกฯยิ้มและหัวเราะ และบอกว่า “ไม่พูดดีกว่า ใจถึงใจ สู้ๆ”
ก่อนประชาชนบอกว่า “ ลุงตู่สู้ๆ
“รักลุงตู่ ที่ลุงตู่รักสถาบัน” ทำให้นายกฯ กล่าวว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี้คือหัวใจนายกฯ เข้าใจหรือไม่ นายกฯทำแล้วให้ไปหาดูว่าทำอะไรบ้างในพื้นที่ของพวกเรา และยังทำอยู่ แต่ยังไม่เสร็จ และพยายามจะทำต่อถ้าได้อยู่ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบทางน้ำ อากาศ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลายอย่างจะดูแลอยู่แล้ว ทั้งคนพิการ คนชรา ให้ตามกำลังทรัพย์ แต่เมื่อรวยขึ้น ลงทุนเกิด ภาษีก็จะกลับมา เข้าใจหรือไม่ขอให้อายุยืนนะ” ก่อนยกนิ้วโป้งชู พร้อมกล่าวอีกว่า “ From My heart จากหัวใจนายกฯ”
ต่อมานายกฯ กล่าวกับประชาชน ว่า ดีใจที่ได้มาเห็นหน้าอีกครั้ง จำได้ว่าเคยมาหลายครั้งทั้งในช่วงแรกและปีที่ 2 วันนี้มาอีกครั้งในฐานะรัฐบาล ในฐานะนายกรัฐมนตรีมารับฟังความเดือดร้อนของประชาชนต้องขอบคุณสิ่งที่ท่านพูดออกมาจากใจ จริงๆแล้วอยากไปทุกที่ เพื่อรับฟังปัญหาตรงจากปากของประชาชน ตนยืนยันว่าจะแก้ให้เรื่องที่ร้องมาปัญหาน้ำกัดเซาะเรื่องประปา วันนี้บ้านเมืองเปลี่ยนไปทุกวันโลกเปลี่ยนไปเยอะ แต่ก่อนอยู่ด้วยความสงบสุข ไม่มีใครมาพูดให้ปวดหัว เวียนหัว อยู่กันด้วยความสงบสุขนั่นคือภายในอดีต แต่ปัจจุบันโลกเจริญขึ้น ทุกคนมีการศึกษา เรียนรู้ บางคนก็ไปผิดบ้าง อะไรบ้างก็ฟังกันไป แต่จะต้องรักสามัคคี สิ่งสำคัญประเทศไทยจะต้องมีความรักความสามัคคีบนพื้นฐานของชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อเช้าไปไหว้ทุกที่ ไหว้ศาล ไหว้เจ้า สิ่งแรกที่ตนขอคือ ขอให้ชาติ ศาสนาปลอดภัย ประชาชนมีความสุข นั่นคือสิ่งที่ตนขอก่อนทุกครั้ง จากนั้นก็ขอให้ข้าราชการทุกคนที่เราช่วยกันทำงานปลอดภัย ซึ่งตนทำแบบนี้มาตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นทหาร วันนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากบรรดาพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ขอใช้คำว่ารับปากในสิ่งที่ร้องขอมา
นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังเข้าสู่การเมืองการเลือกตั้ง พร้อมถามประชาชนว่า เลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งประชาชนตอบว่า วันที่ 7 พ.ค. นายกฯ กล่าวจึงว่า เป็นไปตามไทม์ไลน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายกฯจริงใจกับพวกเราทุกคน รักพวกเรา แต่บางครั้งหงุดหงิดบ้าง ไม่ทันใจ ซึ่งนายกฯอยู่มาหลายปีก็เข้าใจ เราต้องเข้าใจว่าวันนี้ได้ทำอะไรไป คำว่าทำไปแล้ว คือรัฐบาลทำโครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องดิจิทัลวันนี้ทุกคนใช้เป็นกันหมดทำให้การบริหารกิจการตรงถึงมือนายกฯ ต้องการตรงนี้ ทำอะไรก็ได้รัฐบาลช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชน ขอให้ดูวันนี้รัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว แต่ต้องทำต่อให้ดีขึ้นให้ถึงประชาชน เพราะมี 2 อย่างทั้งโดยตรงและทางอ้อม
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ เป็นการต่อเติมที่มีอยู่แล้ว ต่อเติมเรื่องบัตรสวัสดิการ ซึ่งก็ต้องหาเงินด้วยสร้างเศรษฐกิจใหม่มาเติม ถ้าคิดแต่จะใช้อย่างเดียว ก็ไม่มีตังค์จะลำบาก วันนี้นายกฯมีเวลาในการบริหารราชการ ก่อนยุบสภาฯถึงประมาณเดือนมี.ค.อะไรที่ทำได้ก็ทำจริง ไม่ได้มาหาเสียงมาดู มาเก็บตกผลงาน ที่ยังมีปัญหาความเดือดร้อน ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.และอบจ.ทั้งหมด เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา เรามีอะไรเป็นหลักชัยของประเทศ 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.พระมหากษัตริย์ นายกฯยังได้ถามว่าแล้ว 4 คืออะไร ซึ่งประชาชนตอบว่า“นายกฯ” ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีว่า “อันนี้มาใหม่ 4 คือประชาชน” เป็นพื้นที่ดินแดนแห่งความสงบสุขพื้นที่พระเจ้าตาก ตนเองและรัฐมนตรีมหาดไทยเคยทำงานอยู่ที่นี่ ขอให้ทุกคนมีความสุขประสบความสำเร็จ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย สังคมปลอดภัย รัฐบาลดูตรงนี้ต้องเตรียมรองรับ 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.พระมหากษัตริย์ และ 4.ประชาชน ขณะที่ชาวบ้านบอกอีกว่า 4 คือนายกฯทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ทำท่าเขินและบอกว่า “ไม่ใช่ คือประชาชน ไปดีกว่าอันตราย แต่ถ้าไม่เห็นนายกฯแล้วจะคิดถึงนะจ๊ะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวคำว่า “‘ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ” เป็นครั้งแรกซึ่งถือเป็นสโลแกนหรือมอตโต้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่พล.อ.ประยุทธ์คิดด้วยตัวเอง เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง