วันที่ 22 ก.พ.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุข้อความว่า  เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

วันนี้ไปทำเนียบ เอาความจริงไปพูดให้คน

มีอำนาจที่ทำเนียบรัฐบาลฟัง

ทั้งเรื่องเล็ก ไปยันเรื่องใหญ่

บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งขายทั้งดูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ต่างชาติไม่รู้ เห็นมีขายก็ซื้อดูด แต่เสือกโดนจับบอกว่าผิดกฎหมาย

หารู้ไม่ กฎหมายไทยมันสีเทา

จึงบอกรัฐบาลผ่านเลขาฯ นายก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ผลทันควัน

ตั้งแต่วันนี้ หากพบคนใช้บุหรี่ไฟฟ้า แค่ยึด ไม่โดนปรับหรือดำเนินคดี

ส่วนระยะยาว ต้องถามกระทรวงสาธารณสุขว่า หากบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย บุหรี่ธรรมดาไม่อันตรายหรือไง?

ไล่ไปถึงพนันออนไลน์

ตั้งแต่ไซส์ S ขนาดวงเงินหมุนเวียน 5,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง มาเก๊า 888

ไซส์ M วงเงินหมุนเวียน 10,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง โจ๊ก เวกัส 168

ไซส์ L วงเงินหมุนเวียน 20,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง ซัว เป็นต่อ หรือ ดี้ UFA

ไซส์ XL วงเงินหมุนเวียน 30,000 ล้านบาทขึ้นไป อย่าง ตี๋น้อย ร้อยล้าน หรือเอ็ดดี้ ที่ลูกน้องชื่อพีทกับเจียว

ลามไปเรื่องความยุติธรรมของอัยการ ที่มาจากการใช้ “ดุลพินิจ” ที่ไม่ใช่มาจากส่วนตัว

หลายครั้งหลายครา แต่ต้องใช้ดุลพินิจบนพื้นฐานของเหตุผลและกฎหมาย ที่ชี้แจงให้ประชาชนฟังขึ้น

“อุทยานทับลาน” ที่มีความต้องการจะลดขนาดลง 200,000 กว่าไร่ และมีผู้ต่อสู้ รวมทั้งมีข้อขัดแย้งว่า ในพื้นที่นั้นมีทั้งรีสอร์ทและชาวบ้านดั้งเดิม จึงต้องแยกแยะ

หากใครอยู่ดั้งเดิมมาก่อน ให้เขาอยู่ดูแลป่าไปได้ ส่วนรีสอร์ทต้องรื้อ

แค่แบ่งคนจน กับคนรวยยังทำไม่ได้ ก็อย่าไปเป็นข้าราชการเลย

และสุดท้ายเรื่องรถไฟสายสีส้ม อย่ามาบอกว่าให้ผมเอาใบเสร็จมา ผมว่าถึงขนาดนี้ต่อให้มีใบเสร็จก็ยังไม่ยอมรับ

เพียงพฤติกรรมมันมีกลิ่นเหม็นมัวหมอง หลักการง่ายนิดเดียว คือ ใครเอาเงินรัฐบาลน้อยสุด แล้วคุณภาพได้มาตรฐาน เจ้านั้นได้งานไป

หากทำให้ชาติต้องจ่ายมากขึ้น 500% แล้วคุณภาพเท่าเดิม ต่อให้เป็นเทวดามาก็ไม่เอา

พูดกันแค่นี้ดีกว่า มีสาระมากกว่า

ส่วนศาลปกครองสูงสุดยังไม่ได้ออกคำพิพากษา ทำไมคนบ้านๆ อย่างผมยังรู้ล่วงหน้าว่าใน 50 ตุลาการ ชนะด้วยคะแนน 27:23 ชนะกันแค่ 4 เสียง เกินครึ่งมาแค่ 2 เสียง ทำเป็นเฉียดๆ เนียนๆ

ทั้งหลายทั้งมวลมาจากเรื่องหัวใจของการเคลียร์

ผมในฐานะประชาชน ไม่มีตำแหน่ง แต่เอาข้อความของคนในสังคมไปสื่อสารให้รัฐบาลทราบ

เพียงแค่เสียงผมมันดังไปหน่อยเท่านั้นเอง

วันหนึ่งผมเชื่อของผมว่า

“เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

ไม่ใช่บรรดานักการเมืองปลิ้นปล้อน ตระบัดสัตย์

ไม่มีแบ่งแยกว่าจังหวัดไหนเป็นของบรรพบุรุษส่วนครอบครัว

แต่เป็นบรรพบุรุษของคนไทยทุกคน ย่อมมีสิทธิ์ ไม่ต้องขุดถึงโคตรเอาขึ้นมาหาเสียง

และไม่ใช่ของนายทุนที่จ่ายทุกพรรคเหมือนเล่นรูเล็ตต์ โปรยทุกเบอร์

เงินของคุณอาจซื้อนักการเมืองได้ แต่ซื้อประชาชนบางคนไม่ได้

และประชาชนอย่างผมนี่แหละที่จะเริ่มสั่งสอนให้รู้ฤทธิ์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้

ว่าใครเคยทำอะไรไว้ ประชาชนต้องจดจำ

ผมจะเป็นคนเตือนให้รู้สำนึก

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์