ไฟป่าเมืองสามหมอกยังหนักหน่วง เป็นรองจากเชียงใหม่ จุดฮอทสปอต เพิ่มสูงถึง 146 จุด ขณะที่จังหวัดอื่นจุดไฟป่ากลับลดลง ค่ามลพิษเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 หน่วยดับไฟป่าต้องทำงานแข่งกับเวลาตลอดทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ได้หยุดพัก วอนฝนตกหนักเพื่อดับไฟป่าในเทือกเขาสูงที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายเอนก ปันทะยม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในอำเภอปายว่า มีการเกิดไฟป่ามากกว่าอำเภออื่น ๆ ทางอำเภอจึงได้ดำเนินมาตรการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นทางเข้าป่า สกรีนคนที่เข้าไปหาของป่าอย่างเข้มงวด และจากค่าฝุ่นละอองพิษในอากาศที่เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 15 วัน เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว จึงได้มีการนำรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลปายและแต่ละอบต. ทำการฉีดพ่นฝองละอองน้ำเพื่อลดค่าฝุ่นพิษในอากาศ

ทางด้าน สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ในพื้นที่รับผิดชอบ รายงานว่า ค่า PM2.5 มีค่าระหว่าง 48-174 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “ปานกลาง ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (ค่ามาตรฐานเกิน 50 มคก./ลบ.ม.)Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 406 จุด (เชียงราย 22 จุด เชียงใหม่ 205 จุด แม่ฮ่องสอน 146 จุด และลำพูน 33 จุด)  คาดการณ์การสะสมของฝุ่นละอองวันพรุ่งนี้ ( 17 )  คุณภาพอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่รุนแรงมากขึ้นทุกขณะ เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องออกไปดับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะป่าในพื้นที่เขตอนุรักษ์ และสองข้างทางหลวง หมายเลข 108 สายแม่ฮ่องสอน - อ.แม่สะเรียง และ ทางหลวงหมายเลข 1095 สาย แม่ฮ่องสอน - อ.ปาย มีการลอบจุดไฟเผาป่าเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนมากเช่นกันที่ไม่สามารถดับไฟป่าได้ เนื่องจากมีการลอบเผาในป่าบนเทือกเขาสูงไม่สามารถเดินทางเข้าไปดับไฟป่าได้ ต้องปล่อยให้ไฟป่าลามไปจนมอดไปเอง ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าเชื้อเพลิงใบไม้ในป่าจะหมดลง