จากกรณีที่ "ดิว อริสรา"ออกมาเผยเหตุผลที่ออกมาโพสต์แฉเว็บพนันออนไลน์ "มาเก๊า 888" ก่อนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ได้ตั้งหัวข้อประเด็นว่า "มาเก๊า 888 ตายเพราะนารีพิฆาต ไม่ใช่ตำรวจ" แถมยังแฉต่ออีกว่า มาเก๊า 888 แค่ไซส์ S เพราะไซส์ L คือ "สารวัตรซัว แห่งเป็นต่อกรุ๊ป"
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ระบุว่า นายบ่อน นายตำรวจ “ซัว เป็นต่อกรุ๊ป”
“ซัว” เป็นชื่อเล่นของนายตำรวจยศพันตำรวจโท เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ใหญ่ที่สุดในประเทศ พอๆ กับ “เอ็ดดี้” การเป็น “นายตำรวจ” แล้วยังเป็น “นายบ่อน” ด้วย จึงเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง มากกว่านั้นยังทำให้องค์กรตำรวจเสียหายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เท่านั้นยังไม่พอ สารวัตรซัวยังกำเริบเสิบสาน จัดตั้งองค์กรอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ โดยมีดังนี้
1. บริษัททำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
2.บริษัททำธุรกิจผลิต และพัฒนาซอฟแวร์คอมพิวเตอร์
3.บริษัททำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์
4.บริษัททำธุรกิจสถานบันเทิง เช่น Tomorrowland Exclusive lounge, Dubai Luxury Club
5. บริษัททำธุรกิจผลิตบุคลากรวงการคอมพิวเตอร์
6.บริษัททำธุรกิจให้บริการเกมส์ออนไลน์
7.บริษัททำธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มเภสัชกรออนไลน์
8. เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อ
9. มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด
10. บริษัททำอาบอบนวด
ทั้งหมดนี้เพื่อ “ฟอกเงิน” ที่ได้มาจากการพนันออนไลน์ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในยศตำแหน่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากต้องการแก้ไขปัญหาของตำรวจ ต้องเอาความจริงมากางว่า “ใครทำอะไรไว้” มันโกหกกันไม่ได้ครับ ในยุทธจักรพนันออนไลน์รู้จัก ซัวแห่งเป็นต่อกรุ๊ป กันหมด ปัญหาคือ ซัว เป็นนายตำรวจ และเป็นนายบ่อนด้วย งานการไม่ทำไม่พอ ไว้ผมยาว ขับรถซุปเปอร์คาร์ตามสูตร เลี้ยงลูกน้องพาเที่ยวต่างประเทศ
ผมได้เรียน ผบ.ตร. เด่นด้วยวาจา ว่าอย่างนี้ มันไม่ไหวครับ หากเป็นนายตำรวจ แล้วก่อองค์กรอาชญากรรมเสียเอง
บ้านเมืองจะไม่ลุกเป็นไฟได้ยังไงครับ?