กรุงเทพฯ ฝุ่นพิษกระจายทั่ว เริ่มกระทบสุขภาพประชาชน พบเกินมาตรฐาน 36 จุด ชัชชาติเตือนให้จับตาสองวันฝุ่นผิดจะรุนแรงมากขึ้น

     เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) ถึงสถานการณ์ฝุ่น Pm2.5 ช่วงสองวันนี้จะรุนแรงขึ้นเนื่องจากมีสภาพอากาศปิดและเริ่มมีการเผาชีวมวลด้านนอกใน 3 เดือนที่ผ่าน กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการตรวจต้นตอฝุ่น โดยตรวจสถานประกอบการ 40,28 แห่ง สั่งปิดไป 7 แห่ง ตรวจแพลนท์ปูน 522 แห่ง ให้ปรับปรุง 16 แห่ง ตรวจสถานที่ก่อสร้าง รวม 1,172 แห่ง ให้ปิดปรับปรุง 26 แห่ง ตรวจสถานที่ถมดินท่าทราย 67 แห่ง รวมถึงตรวจควันดำรถยนต์ 60,000 คัน ห้ามใช้ 1,245 คัน รถโดยสารประจำทาง 9,269 ห้ามใช้ 43 คัน รถบรรทุก 31,072 คัน ห้ามใช้ 135 คัน โดยมีการตรวจอย่างต่อเนื่อง และได้ทำแอพพลิเคชันเตือนภัยประชาชนด้วย 
    
 นายชัชชาติ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นคือการพยากรณ์ฝุ่นต้องให้แม่นยำมากขึ้นเพราะจะมีผลกับการเตือนภัยประชาชนในการป้องกัน รวมถึงเพื่อประสานงานกับจังหวัดปริมณฑลและต่างประเทศในการดูเรื่องชีวมวล ส่วนในเรื่องของการกำจัดต้นตอเป็นเรื่องขอความร่วมมือในอำนาจที่เรามีซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน คงไม่สามารถทำได้ในระยะสั้นเป็นเรื่องการวางแผนระยะยาว รวมถึงในแง่ของการวิจัยต้นตอฝุ่นก็ต้องให้ชัดว่ามาจากองค์ประกอบไหนเป็นหลัก เพื่อแก้ได้ตรงจุด ซึ่งเรามีหน่วยนักสืบฝุ่นพยายามวิเคราะห์และหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษอย่างต่อเนื่อง
     
 สถานการณ์ช่วงสองวันนี้น่าจะยังมีสภาพอากาศปิดที่ต้องระวังเรื่องฝุ่น สำนักอนามัยได้มีมาตรการป้องกันโดยได้มีการแจกหน้ากากอนามัยในกลุ่มเปราะบางไปแล้วกว่า 1 ล้านชิ้น และเปิดคลินิกฝุ่นใน 5 โรงพยาบาลกทม. ช่วยดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สิ่งหนึ่งที่ได้ขอความร่วมมือไป คือบริษัทไหนที่สะดวกในการ Work from Home ก็ให้ลดการเดินทางลงในช่วงนี้ เป็นเรื่องขอความร่วมมือ เป็นประโยชน์ของบริษัทเองด้วยในเรื่องสุขอนามัย เราไม่มีอำนาจไปบังคับ บริษัทไหนที่ร่วมมือจะแจ้งเข้ามาโดยที่ปรึกษาพรพรหมเป็นผู้รวบรวมขณะนี้มี 33 บริษัท แต่ดูจากสถานการณ์แล้วค่าฝุ่นอยู่ที่ระดับ 50-60 มคก./ลบ.ม. ยังไม่ถึงขั้นปิดโรงเรียน และหลังวันที่ 3 ก.พ.เป็นต้นไปสถานการณ์น่าจะดีขึ้นจากพยากรณ์อากาศจะมีลมเปลี่ยนทิศพาอากาศดีเข้ามา
     
ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 31 ม.ค.66 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 40-69 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 36 พื้นที่ คือ 1.เขตหนองแขม 2.เขตตลิ่ง 3.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 4.เขตคลองสามวา 5.เขตลาดกระบัง 6.เขตหนองจอก 7.เขตภาษีเจริญ 8.เขตทวีวัฒนา 9.เขตปทุมวัน 
     
  10.เขตบางกอกใหญ่ 11.เขตดินแดง 12.เขตดอนเมือง 13.เขตสาทร 14.เขตบางเขน 15.เขตบางซื่อ 16.เขตคลองสาน 17.เขตธนบุรี 18.เขตวังทองหลาง 19.เขตประเวศ 20.เขตบางพลัด 21.เขตมีนบุรี 22.เขตยานนาวา 23.เขตสายไหม 24.เขตบาง 25.เขตพญาไท 26.เขตหลักสี่ 27.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค เขตบางแค 28.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 29.เขตสัมพันธวงศ์ 30.สวนเสรีไทย 31.เขตจอมทอง 32.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ เขตทุ่งครุ 33.เขตบางบอน 34.สวนหนองจอก 35.เขตบึงกุ่ม 36.เขตบางขุน 
    
 ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา) คาดว่าอัตราการระบายอากาศในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.66 จะไม่ดี เนื่องจากเพดานอากาศต่ำ เกิดสภาวะอากาศปิดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 เป็นช่วงที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มค่อนข้างลดลงถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสลับกันในช่วงนี้ อีกทั้งความกดอากาศสูงจากจีนจะออกมานอกชายฝั่งทำให้ทิศของลมหนาวนั้นเปลี่ยนจากตะวันออกเฉียงเหนือมาเป็นตะวันออก ส่งผลให้จะมีการเริ่มพัดพาฝุ่นควันจากกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของการเปลี่ยนผ่านไปยังฤดูร้อนลมใต้จะทวีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
     
ช่วงวันที่ 1-4 ก.พ.66 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด  โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม)