หวั่นทัพพม่าฉวยโอกาส KNU ฉลอง 74 ปี วันปฎิวัติกะเหรี่ยงด้วยการอดอาหารทบทวนแนวทาง “พล.อ.บอจ่อแฮ” เผยทัพ KNLAอรุกคืบคุมพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น เชื่อทหารราบพม่าสิ้นฤทธิ์จึงต้องใช้โจมตีทางอากาศเป็นหลัก
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 พลเอกบอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะหรี่ยง (Karen National Liberation Army- KNLA ) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union- KNU) ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวสำนักข่าวชายขอบ (Transborder News ) ถึงการจัดงานในวาระครบ 74 ปีวันปฏิวัติกะเหรี่ยง (Karen Revolution Day )ในวันที่ 31 มกราคม ว่าในปีนี้จะไม่มีการจัดงานสวนสนามดังเช่นทุกปีเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะข้าศึกคือกองทัพเผด็จการพม่ามีการสอดแนมตลอดเวลา และได้เล็งพิกัดในการโจมตีไว้แล้ว อย่างไรก็ตามงานปฏิวัติสามารถจัดขึ้นกันเองได้ ทุกคนสามารถจัดเป็นการส่วนตัวเพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติ
รอง ผบ.สส. KNLA กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมรำลึกถึงวีรชนในวันปฎิวัติสามารถทำได้ตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ สำหรับปีนี้ได้ขอความร่วมมือให้ร่วมกันอดอาหารในวันครบรอบการปฏิวัติ โดยไม่ได้ขอให้ทำทุกคน แต่นักปฏิวัติขอให้ร่วมกิจกรรมนี้เพื่อทบทวนตนเองให้สามารถเดินตามแนวทางที่ถูกต้อง และยุติธรรม ซึ่งขอให้ตั้งจิตอธิษฐานตามความเชื่อที่เรามีตลอด 74 ปีที่ทำงานสืบทอดกันมา ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ทั้งที่ควรและไม่ควร โดยที่ผ่านมาเราใช้แต่แรงกาย การทบทวนตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ ว่ามีอะไรไม่ถูกต้องบ้าง แล้วการตั้งจิตอธิษฐานจะนำเราไปสู่ความถูกต้อง ความยุติธรรม
“ตลอดเวลาการต่อสู้ของเรา กายและใจไม่สัมพันธ์กัน สถานการณ์บางครั้งเหมือนจะดี บางครั้งก็ไม่ดี สถานการณ์การปฏิวัติบางครั้งดูเหมือนไม่มีความหวัง แต่เราต้องมีความเชื่อ หากเราตั้งจิตอธิษฐาน มีใจแห่งความหวังก็จะนำเราไปสู่เป้าหมายที่สมบูรณ์” พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าตลอด 2 ปีหลังกองทัพพม่ายึดอำนาจและการสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์มีความรุนแรงขึ้น ในส่วนของ KNU มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาหลังรัฐประหารในพม่าต้องยอมรับว่ากระบวนการทางการเมืองมีข้อติดขัด แต่ทางการทหารนั้น เราคุมพื้นที่ได้มากขึ้น ทหารพม่าถอยและต้องออกไปจากหลายพื้นที่ ในอนาคตประชาชนจะได้อยู่อย่างปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพกะเหรี่ยงมากขึ้น มีความปลอดภัยของประชาชน และให้สามารถอยู่บนแผ่นดินมาตุภูมิอย่างสงบสุข ทหารกะเหรี่ยงจะพยายามทำให้สำเร็จอย่างดีที่สุด
รอง ผบ.สส. KNLA กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในรัฐอื่นๆ นั้นมีลักษณะคล้ายๆ กันกับรัฐกะเหรี่ยงซึ่งเราได้ประสานงานกับกองทัพชาติพันธุ์ต่างๆ และมีปฏิบัติการควบคู่กัน เช่นในรัฐคะฉิ่น ทำให้ทราบว่ามีทหารพม่าถอนตัวออกจากหลายพื้นที่เช่นกัน
เมื่อถามอีกว่า ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนไม่น้อยที่ยากลำบากและต้องหลบซ่อนอยู่ตามป่าเขาเพราะผลจากการสู้รบและการโจมตีประชาชนโดยกองทัพพม่า จะบอกพวกเขาว่าอย่างไร พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าวว่า เวลาลงพื้นที่ก็ได้เยี่ยมประชาชนที่หลบหนีและให้กำลังใจว่าขอให้เชื่อมั่นได้เลยว่ากำลังทหารราบพม่าในตอนนี้ ไม่สามารถเข้ามาโจมตีหรือทำลายบ้านเรือน เข่ฆ่า หรือปล้นสะดมชาวบ้านได้อีกแล้ว ทหารพม่าไม่สามารถทำได้อย่างอดีตแล้ว ซึ่งชาวบ้านมื่อได้ฟังต่างก็มีความเชื่อมั่น
“ผมพยายามบอกชาวบ้านว่าตลอดปี 2023 นี้ เราต้องระวังการโจมตีทางอากาศเพียงอย่างเดียว เพราะ พวกเขาทำให้เรากลัวด้วยการโจมตีทางอากาศ สำหรับทหารราบของพม่า การส่งเสบียงต่างๆ ยังต้องส่งทางอากาศ การรับส่งกำลังพล ผู้บาดเจ็บก็ต้องใช้อากาศยาน พวกเขาใช้เครื่องบินโจมตีเพื่อให้ขวัญกำลังใจทหารของตนเอง แต่พบว่าปฏิบัติหารหลายต่อหลายครั้งไม่บรรลุเป้า โจมตีไม่ตรงเป้าหมาย สิ่งที่เราต้องกังวลมีเพียงการโจมตีทางอากาศ เพราะบ่อยครั้งทหารพม่ามาโจมตีทางอากาศในช่วงกลางคืน แต่เราได้ให้ความหวังแก่ประชาชนว่า ขอเพียงปีเดียวที่เราต้องกังวลกับเรื่องการโจมตีทางอากาศ เราจะพยายามหาทางป้องกันให้ชาวบ้านสบายใจที่สุด หากเราสามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศได้ ก็จะลดความกังวลให้ชาวบ้านได้ เราให้กำลังใจชาวบ้านด้วยการสร้างความเชื่อมั่น” พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าว
เมื่อถามอีกว่า หากปีนี้ต้องยืนประกาศกับกำลังพลและประชาชนรัฐกะเหรี่ยงเหมือนปีก่อนๆ จะบอกอะไรกับพวกเขา รอง ผบ.สส. กล่าวว่า ปีนี้แม้เราไม่มีการสวนสนาม ไม่มีเวทีใหญ่ แต่แนวทางการปฏิวัติของเราเป็นสิ่งสำคัญ ทุกพื้นที่ นายทหารทุกนายเราจะย้ำเรื่องแนวทางการต่อสู้ และเป้าหมายของเราให้ชาวบ้านได้รับรู้ เราจะเคารพซึ่งกันและกันอย่างไร
“การให้กำลังใจชาวบ้าน ผมมักบอกพวกเขาเสมอว่า ในยุคสงครามเวียดนามเจอการทิ้งระเบิดทางอากาศมาหนักกว่าเรา แต่พวกเขาอดทนต่อสู้จนได้รับเอกราช พวกก็เราต้องอดทนสู้ และเตรียมพร้อมต่อไป” พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าว
เมื่อถามอีกว่าพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินมีโอกาสปลอดทหารพม่าได้หรือไม่ รอง ผบ.สส.KNLA กล่าวว่า แม่น้ำสาละวินเป็นพื้นที่ของชาวกะเหรี่ยง เชื่อว่าอีกไม่นานทหารพม่าจะต้องออกไปจนหมด