วันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์ฝุ่น ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้าผ่านการไลฟ์สดว่า หลังจากวันนี้(30ม.ค.) ค่าฝุ่นจะเพิ่มขึ้น ทำให้คุณภาพอากาศเริ่มแย่ลง โดยสถานการณ์ในวันนี้กรุงเทพมหานครโซนทิศตะวันออกอยู่ในระดับปานกลาง(สีเหลือง 51-100มคก./ลบ.ม.) ซึ่งกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก คนชรา ผู้มีโรคประจำตัว ควรสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน และในวันพรุ่งนี้(31ม.ค.) มีแนวโน้มว่าคุณภาพอากาศอาจอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในบางพื้นที่(สีส้ม101-200 มคก./ลบ.ม.) เนื่องจากความกดอากาศสูงและมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมา ซึ่งวันที่ 28-29 ม.ค.ที่ผ่านมา มีอัตราการระบายอากาศ(แรงลม)เกือบ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การระบายฝุ่นทำได้ดี แต่ในวันนี้(30ม.ค.)อัตราการระบายอากาศ(แรงลม)ลดลงเหลือประมาณ 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมงประกอบกับเพดานการลอยตัวของอากาศลอยต่ำลง ส่งผลให้ค่าฝุ่นเริ่มขยับขึ้น
ส่วนในวันที่ 31 ม.ค. ถึง 1 ก.พ. เพดานการลอยตัวของอากาศจะต่ำลงอีก ประกอบกับมีแรงลมต่ำลง ทำให้ฝุ่นระบายออกจากพื้นได้ช้า เกิดการสะสมนานขึ้น ซึ่งในวันดังกล่าวต้องเฝ้าระวังและเตรียมป้องกันอันตรายจากฝุ่น PM2.5 โดยคาดการณ์ว่าในวันที่ 2-3 ก.พ.สถานการณ์ฝุ่นจะค่อยคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับกระแสลมซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้ากรุงเทพมหานคร ประกอบกับเริ่มพบจุดเผาชีวมวลในประเทศใกล้เคียง เช่น ประเทศกัมพูชา หากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มเติม ก็มีโอกาสพัดฝุ่นจากประเทศกัมพูชาเข้ามาได้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านได้ที่ แอปพลิเคชันAirBKK, www.airbkk.com, เฟซบุ๊ก สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร, เฟซบุ๊ก กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม และเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ควรสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง
ทั้งนี้ วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ระบุว่า พบผู้เผาไหม้หญ้าและขยะในกรุงเทพมหานคร 23 ราย จึงขอเตือนประชาชนให้ระวังการลุกลาม และเป็นสาเหตุก่อมลพิษฝุ่นเพิ่มขึ้น
สำหรับการคาดการณ์ล่วงหน้า 7 วัน ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ในวันที่ 1-3 ก.พ. สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ(สีส้ม101-200มคก./ลบ.ม.) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระแสลมเปลี่ยนทิศในช่วงนี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดย กทม.ได้ดำเนินการตรวจต้นตอมลพิษอย่างใกล้ชิด ทั้งการเผาชีวมวล รถควันดำ โรงงานคอนกรีตสำเร็จรูป และจุดก่อสร้างต่างๆ
อย่างไรก็ตาม หากในช่วงวันที่ 31 ม.ค. ถึง 3 ก.พ. สถานการณ์ฝุ่นรุนแรงมาก อาจต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการและประชาชนทำงานที่บ้านเพื่อบรรเทาสถานการณ์ต่อไป