อุทยานฯ เรียกผู้ประกอบการเกาะเสม็ดแจง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่2 ยันไม่เข้าข้างพวกเดียว เจอใครเกี่ยวข้องทุจริตไม่เอาไว้แน่ ประธานรถยนต์เช่า กลับลำ อ้างเงินทั้งหมดอยู่ในธนาคาร เป็นค่าดำเนินการภายในกลุ่ม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่โวยไม่ทราบเรื่อง ทำไมไม่แจ้งให้ทั่ว
จากกรณีที่ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด ออกมาแฉ เรื่องที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ จำนวน 16,000 บาท จากรถยนต์เช่า ทั้ง 60 คัน รวมถึงเรียกเก็บ รถ จยย.เช่า และ จยย.รับจ้าง จำนวน 660 คัน จำนวน 1,600 บาท ต่อคัน เรียกเก็บจากเจ้าของรีสอร์ท ที่ต้องการนำรถยนต์มาส่งนักท่องเที่ยวของรีสอร์ทเอง จำนวน 4 คัน คันละ 100,000 บาทแล้วยังมีการเรียกเก็บจากผู้ที่ต่อเติมก่อสร้าง ในพื้นที่เช่าจากกรมธนารักษ์ บนเกาะเสม็ด ร้อยละ 10 เปอร์เซ็น จากงบประมาณการก่อสร้าง และ เรียกเก็บเงินจากผู้ที่ใข้คราดและไม้กวาด ไปทำการกวาดหญ้าริมถนน จำนวน 2 แสนบาท แต่ไม่มีเงินจ่ายจึงถูกดำเนินคดี ต่อมานายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายสาธิต ปิ่นกุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 และ นายชาณุ เดชธัญญนนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดยสรุปว่า เรื่องการเรียกรับเงิน ได้มีการตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับ ทางนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยกำหนดเวลาการตรวจสอบภายใน15วัน ด้านประชาชนบนเกาะเสม็ด ต้องการมีส่วนร่วมตรวจสอบกับทางอุทยานฯด้วย ล่าสุด เจ้าของรถเช่านำหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว ส่งให้ ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง ประธานคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ดกรรมตรวจสอบพร้อมคณะกรรมการ ที่มาร่วมตรวจสอบ ยืนยันว่า จ่ายเงิน 16,000 บาทจริง รองผวจ.ผลตรวจสอบเสร็จทันภายใน15วัน ตามที่เสนอไปแล้ว
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 ม.ค. นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายสาธิต ปิ่นกุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 และ นายชาณุ เดชธัญญนนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ได้ เชิญให้ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดทุกสาขาอาชีพ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเรือโดยสาร หาบเร่แผงลอย รีสอร์ท รถยนต์ รถจยย.ให้เช่า มาที่ ห้องประชุม ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกฎระเบียบ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่กำหนด ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
นายก้องเกียรติ ได้กล่าวว่า การที่ให้ผู้ประกอบมาในวันนี้ เพื่อทำความเข้าใจในทุกเรื่อง โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ปี พ.ศ.2562 และ เรื่องการกำหนดแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระเป็นพิเศษ โดยปัจจุบัน ทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ได้เรียกเงินพิเศษจากชาวต่างชาติหัวละ 100บาท ในพื้นที่เปราะบาง ตามเกาะบริวารของเกาะเสม็ด ส่วนเรื่อง กรณีที่เป็นข่าว เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน ซึ่งขณะนี้ ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 ได้มีการคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งก็คืบหน้าไปบ้างแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เพราะมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่ก็ยืนยันว่าจะสรุปผลการสอบสวนได้ภายใน วันที่ 15 ก.พ.66 อย่างแน่นอน
นายก้องเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ผู้ที่ให้ข้อมูลต่างก็ควรจะต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงและที่สำคัญต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ตนขอยืนยันว่า หากพบว่ามีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้อง ตนเองไม่เอาไว้แน่ ส่วนเรื่องของเงินจำนวน 16,000 บาท ยังไม่พบว่าทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯเข้าไปเกี่ยวข้อง หากพบว่ามีก็แจ้งเข้ามาทางตนจะดำเนินการลงโทษอย่างแน่นอน
ด้านนายธานี สุขกระจ่าง ประธานชมรมแท็กซี่เกาะเสม็ด(รถยนต์เช่า) ได้เดินทางมาร่วมรับฟัง ได้กล่าวว่า เกี่ยวกับเงิน 16,000 บาท มีการเรียกเก็บเงินจริง โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินค่าดำเนินการภายในชมรม ซึ่งยังไม่ได้ส่งให้อุทยานฯแต่อย่างใด เงินจำนวน 960,000 บาท ที่เก็บจากผู้ประกอบการรถยนต์เช่า จำนวน 60 ราย ที่จ่ายรายละ 16,000 บาท เงินทั้งหมด ยังฝากอยู่ในธนาคาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของชมรม หากมีการขอเงินคืน ก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อนเพื่อหาข้อสรุป
ส่วนผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดส่วนใหญ่ ไม่ทราบเรื่อง เกี่ยวกับเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงของอุทยานฯในครั้งนี้ จึงตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นการเรียกเฉพาะบุคคล ซึ่งความจริงแล้ว ควรจะเรียกผู้ประกอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้ามาร่วมรับฟังด้วย ความจริงก็จะปรากฎ
ด้านกรมธนารักษ์ เตรียมลงพื้นที่เกาะเสม็ด ในวันที่ 31 ม.ค.66 เพื่อตรวจสอบผู้เช่าที่ดินราชพัสดุบนเกาะเสม็ด เพื่อตรวจสอบ ว่า ผู้เช่าดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในการสัญญาเช่าหรือไม่ เช่น การเช่าที่เพื่อที่อยู่อาศัย แต่ไปประกอบการรีสอร์ท ก็ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ ก็จะให้มีการแจ้งว่ตถุประสงค์ใหม่ตามความเป็นจริง เพราะการเช่าที่ดินแต่ละอาชีพจะมีการเรียกเก็บค่าเช่าที่ต่างกัน