นครพนม สุดระทึกไฟไหม้ห้องแถวไม้เก่ากลางเมือง ย่านเศรษฐกิจ เสียหายวอด 6 คูหา เพื่อนบ้านอุ้มยาย วัย 86 ปี หนีตายจากบ้านต้นเพลิง ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่าชั่วโมง พบเป็นห้องแถวไม้สองชั้นครึ่งปูนอายุหลาย 10 ปี กลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเร่งหาสาเหตุ เสียหายหลายล้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

            เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 26 มกราคม 2566 ร.ต.ท.สัจจนันท์ บางทราย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้องแถวอาคารพาณิชย์ บริเวณถนนธำรงประสิทธิ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองนครพนม ระดมรถน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อายุเก่าแก่หลาย 10 ปี  ทำให้ไฟลุกลามไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงนานกว่าชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ได้รับความเสียหาย ทั้งหมด จำนวน 6 คูหา ตรวจสอบ พบเป็นห้องแถวเช่า ทำการค้า จำนวน 5 คูหา อีก 1 คูหา เป็นเจ้าของห้องแถวทั้งหมด โดยขณะเกิดเหตุมีผู้พบเห็นเหตุการณ์เกิดไฟลุกไหม้ จากห้องแถวคูหาที่ 2 โดย มีเจ้าของเป็นยาย อายุ 86 ปี ยังพักอาศัยอยู่ เพื่อนบ้าน พลเมืองดี ที่เห็นเหตุการณ์ จึงเข้าไปช่วยเหลือนำออกจากบ้านเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบเก็บหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยจจะต้องมีการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดเสียหายหลายล้านบาท

           

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายชวนินทร์ วงศ์สสถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมด้วย นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าควบคุมสถานการณ์จนกระทั่งเพลิงสงบ

ด้าน น.ส.น้ำฝน อายุ 30 ปี ลูกจ้างร้านส้มตำ ที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านหลังเกิดเพลิงไหม้ เล่าว่า บ้านต้นเพลิงเป็นคูหาที่สอง ร้านขายของชำ มี คุณยายอายุ 86 ปี อยู่คนเดียวส่วนลูกหลานไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุเห็นไฟลุกไหม้มาจากหลังบ้าน ขณะที่ตัวคุณยายนั่งอยู่หน้าบ้าน ตนและเพื่อนบ้านจึงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือออกจากบ้านพัก เนื่องจากไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว โชคดีเพื่อนบ้านรีบนำถังดับเพลิงฉีดแต่เพลิงไม่สงบ กลับลุกโหมแรงกว่าเดิม เพราะมีกระดาษเชื้อเพลิง อีกทั้งเป็นบ้านไม้เก่า ทำให้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนลุกลามเสียหายทั้ง 6 คูหา