25 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยสิทธิ์ ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษาด่านกฎหมายภาคประชาชนพร้อมตัวแทนกลุ่มชมรมประเพณีวัวลานและวัวสวยงานจังหวัดประจวบฯจาก 6 อำเภอ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดฯเพื่อยื่นหนังสือขอให้จังหวัดฯเปิดให้มีการจัดกิจกรรมประเพณีวัวลานและวัวสวยงาม ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน หลังจังหวัดฯสั่งห้ามจัดนานนับปี โดยมีนายจราวุฒิ จิรประภานนท์ จ่าจังหวัดประจวบฯเป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายพรหมมินทร์ ทองคำ (ยอดบางจาน)ประธานชมรมวัวลานและวัวสวยงามจังหวัดประจวบฯกล่าวว่า
หลังจากที่ตนเคยรวมตัวมายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯเมื่อปี2560ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้มีการจัดกิจกรรมประเพณีดังกล่าว ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นที่มีการสืบทอดต่อกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ตนจึงกลับมาให้จังหวัดทบทวนให้ชมรมได้มีโอกาสได้จัดการเล่นแข่งวัวลานและการจัดประกวดวัวสวยงามตามสายพันธิ์ต่างๆเพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ชุมชนทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดได้อีกทาง
นายวัชรพล ปลั่งศรีสกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต.1 จ.ประจวบฯ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ประเพณีการแข่งวัวลานหรือเรียกว่า"การวิ่งวัวลาน"ในอดีตกลุ่มเกษตรกรหรือชาวนาในแต่ละท้องถิ่นใช้วัวนวดข้าวโดยการย่ำข้าวในลานวงกลม วัวของไครที่มีพละกำลังดีก็จะเดินนวดข้าวอยู่รอบนอกให้เม็ดข้าวหลุดออกจากรวงได้ดี ส่วนวัวตัวใดที่มีพละกำลังน้อยก็จะคลุกอยู่วงในชิดเสากลางลานให้ย่ำน้อยลง ต่อมาถูกดัดแปลงให้กลายเป็นกิจกรรมนวดข้าวเป็นหมู่คณะ ชาวบ้านในระแวกที่เลี้ยงวัวหลังฤดูการเก็บเกี่ยว ก็จะนำวัวที่เลี้ยงไว้ มาช่วยกันย่ำรวงข้าวให้เม็ดข้าวหลุด จากนั้นจะแยกเก็บไว้ในยุ้งข้าวเพื่อให้มีข้าวไว้กินเพียงพอภายในครอบครัว ระหว่างรอฤดูการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป ต่อมาวีถีชีวิติถูกเปลี่ยนตามวิวัฒนาการ มีการพัฒนาให้เป็นกิจกรรมด้านกีฬาเรืยกว่า"ประเพณีวิ่งวัวลาน" จนเป็นกีฬาที่สืบทอดกันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน และได้รับความนิยมจากผู้สนใจกิจกรรมกีฬาวัวลานและวัวสวยงามเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านต่างที่หรือต่างจังหวัดฯ ที่ชื่นชอบกีฬาดังกล่าว ก็จะนำวัวพันธ์ดีมาลงแข่งขันกันเพื่อชิงลางวัลวัวพันธ์ดีสายพันธ์ที่แข็งแรงที่สุด ซึ่งจะนิยมจัดในช่วง สงกรานต์ ออกพรรษา หรือหลังฤดูเก็บเกี่ยว นายวัชรพลกล่าวต่อและว่า สุดท้ายอยากให้ผู้บริหารระดับสูงในจังหวัดฯพิจารณาและเล็งเห็นประโยชน์ของการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนทำให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายสร้างรายได้ด้วยตนเองได้จริง และยังเป็นการสืบสารวัฒนธรรมประเพณีที่เขาได้สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ให้ศูนย์หาย ทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นนั้นๆได้อีก
-