นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ.2566 เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเปิดตัวกฎหมาย "รถเมล์อนาคต" โดยจะผลักดันให้ออกเป็นข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร ที่จะกำหนดให้รถเมล์ที่วิ่งในกทม. ต้องเป็นรถไฟฟ้า หรือ EV ทั้งหมด มีระยะเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่าน 7 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายลดฝุ่นละออง PM2.5 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงจะพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถเมล์ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีผู้ใช้งานหลักล้านคน และจะมีการยื่นญัตติด้วยวาจาในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2566 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2 ดินแดง เมื่อวัน 24 ม.ค.66 ที่ผ่านมานั้น ส่วนตัวเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและอยากสนับสนุนญัตตินี้ เพราะอยากให้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารที่มีสภาพดี ปลอดภัย และที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของกรุงเทพมหานครอาจจะยังมีอำนาจหน้าที่ตามข้อบัญญัติ หรือพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องไม่ครอบคลุม และไม่สามารถดำเนินการได้ในทันที ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเลขานุการสภากทม. อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อให้คณะกรรมการสามัญประจำสภากรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องได้ศึกษา และหาแนวทางเพื่อพิจารณาปรับปรุงข้อบัญญัติในส่วนอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครต่อไป
“ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นPM.2.5เป็นประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบฯ ให้ความสำคัญ และได้ตั้งข้อสังเกตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกทม.มาโดยตลอด แต่ปัญหาดังกล่าว ลำพังเพียงหน่วยงานของกทม.อาจไม่สามารถแก้ไขได้ลุล่วง ด้วยอำนาจหน้าที่ของกทม.ในฐานะท้องถิ่นที่มีอยู่อย่างจำกัด จำเป็นต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอีกหลายหน่วยงาน ดังนั้นสภากทม.จะเร่งทำการศึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของกทม.เกิดผลเป็นรูปธรรม ชัดเจนขึ้น” นายสุทธิชัย กล่าว