จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาแชร์อุทาหรณ์หลังพาลูกไปรักษา โดยมีอาการไข้ และตัวร้อน ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่สุดท้ายลูกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค.66) โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยมีใจความสรุปว่า ผู้ป่วยเด็กรายนี้มา รพ.ด้วยอาการไข้สูง 1 วันก่อนมาโรงพยาบาล ตรวจร่างกายนอกจากอาการไข้แล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นไข้เฉียบพลันและให้รับเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งผลตรวจพบเพียงเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และไม่พบการติดเชื้อไข้เลือดออก วันต่อมาผู้ป่วยยังมีไข้สูง แพทย์จึงตรวจร่างกาย และประเมินซ้ำ การตรวจทั้งหมดไม่แสดงการติดเชื้อ
ในตอนบ่ายผู้ป่วยมีอาการชักหนึ่งครั้ง ประมาณ 30 วินาที แพทย์ได้ตรวจพบรู้สึกตัวดี ผลร่างกายปกติ หลังจากนั้นชักซ้ำอีกครั้ง จึงให้ยากันชัก ในตอนเย็นแม้ว่าจะได้รับยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดแล้ว แต่ผู้ป่วยมีอาการซึมลง อาเจียนเป็นเลือด หายใจเหนื่อย แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ผู้ป่วยยังมีสัญญาชีพทรุดลงต้องทำการกู้ชีพ สัญญาณชีพก็ยังไม่คงที่ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ การทำงานของไตผิดปกติ และมีภาวะเลือดเป็นกรด และผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา มีหัวใจหยุดเต้นเป็นระยะๆ หลายครั้ง ซึ่งในระหว่างที่ทำการรักษานี้ทาง โรงพยาบาลได้แจ้งอากาหารต่อผู้ปกครองเป็นระยะๆ แม้ทีมแพทย์ได้พยายามรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ แต่ไม่เป็นผล ผู้ป่วยเสียชีวิตในเย็นวันรุ่งขึ้น
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้ป่วยในการสูญเสียครั้งนี้ ขอยืนยันว่าการรักษาพยาบาลผู้ป่วยรายนี้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพทุกประการ
ทางโรงพยาบาลได้อธิบายถึงอาการ การรักษาที่ผู้ป่วยได้รับ และสาเหตุของการเสียชีวิตแก่ญาติผู้ป่วยแล้ว 2 ครั้ง แต่หากบิดามารดาผู้ป่วยมีข้อติดใจสงสัยก็พร้อมที่จะพูดคุยตอบข้อสงสัยโดยตรง แต่การนำข้อมูลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณะ หรือให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามารับรู้ด้วย ย่อมเป็นการขัดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งการปฏิบัติตามกฎหมายนี้เป็นสิ่งที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ยึดถืออย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด