ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ โคก หนอง นา เขตทวีวัฒนา นายชัชชาติ​ สิทธิพันธุ์​ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ กล่าวถึงสถานการณ์หาบเร่แผงลอย​ในกรุงเทพฯว่า​ ในเรื่องของแผงค้าหาบเร่ เราคุยกันเข้าใจและต้องดูแลซึ่งกันและกันโดยไม่ใช้ความรุนแรง คนเดินถนนต้องมาเป็นอันดับหนึ่งแต่หากพอมีพื้นที่เหลือที่ไม่เกะกะรกรุงรัง​ ก็อาจให้คนมาทำมาหากินได้บ้างก็ควรมีการแบ่งพื้นที่ต่อไป​ ซึ่งกทม.จะลงพื้นที่ทั้ง 50 เขตเพื่อสร้างแนวปฏิบัติ​ หากเส้นทางที่คนเดินทางเท้ามากเช่น​เส้นทางรถไฟฟ้า​ ทางเข้า Office ทำให้เกิดการกีดขวาง เดินยากและสกปรกก็จะต้องมีการแก้ไข กทม.มีการลงพื้นที่อยู่ตลอดและได้รับความร่วมมือที่ดีจากผู้ค้าส่วนใหญ่​

“อีกบริบทหนึ่งที่กทม.ต้องพิจารณาคือตลาดอัตลักษณ์ เช่น ถนนข้าวสาร ถนนเยาวราช และในอนาคตจะพิจารณาถึง​ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง พาหุรัด ซึ่งจุดมุ่งหมายของคนที่ไปคือการเดินซื้อของหรือเที่ยวอยู่แล้วและเป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่ พื้นที่เหล่านี้ไม่ได้เน้นการสัญจร​ ไม่ใช่เส้นทางทำงานแต่เน้นการค้าขาย​ ในกรณีนี้อาจมีการหารืออีกครั้งโดยต้องมีความร่วมมือจากหลายภาคส่วน”

นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับขณะนี้กทม.มีจุดผ่อนผันประมาณ​ 100 กว่าจุด และการทบทวนก็ยังไม่มีเพิ่มเติม​ และกทม.ก็ไม่อยากให้มีเพิ่มเพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ จึงควบคุมไม่ให้เพิ่มจำนวนหากลดได้ก็ควรลด หากจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนได้ก็ควรทำเลย แต่ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไรบ้าง ช่วงที่ผ่านมามีการเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงและพัฒนาต่อไป