วันที่ 11 ม.ค.66 นายกองตรีพันธุ์ธัช ภูสง่า รองผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอบ้านแท่น ที่ 13/ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง (ปลัดอาวุโส อ.บ้านแท่น) จ.ชัยภูมิ ได้หอบหลักฐานการกวาดล้างยาเสพติดในปีที่ผ่านมากว่า 1 ห่อใหญ่ เข้าร้องเรียนกับนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยภูมิ ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ และนายสุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี นายกสมาคมนักข่าว สื่อมวลชน จ.ชัยภูมิ ในเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาความดีความชอบในการปฎิบัติงานในหน้าที่ และขอให้ลงโทษผู้บังคับบัญชาท่านใด เสนอชื่อผู้ที่ไม่มีการปฏิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติดจริง เข้ารับการพิจารณความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ แสดงว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และเป็นการกลั่นแกล้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเสียหาย เห็นควรได้รับบทลงโทษตามกฎหมายทั้งทางอาญา และทางวินัยด้วย จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้กับคนอื่นด้วย มีนายประเสริฐ กิ่งกรดกลาง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม 

ขณะที่นายกองตรีพันธุ์ธัช ภูสง่า กล่าวว่า หลังจากที่ได้มาปฏิบัติงานด้านยาเสพติดมาตั้งแต่ย้ายมารับราชการที่ทำการปกครองอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ถึง 12 มิถุนายน 2565 เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และได้ทำการจับกุม ปราบปราม ผู้กระทำความผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การค้า/จำหน่าย ขาย หรือเสพยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์มาแล้วไม่น้อยกว่า 36 คดี จนได้ลำดับที่ 1 ของจังหวัดชัยภูมิ ในปีงบประมาณ 2564 ในการนับสถิติจำนวนการจับกุมยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ภายในจังหวัดชัยภูมิ จนได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ ด้านยาเสพติด (ขั้นยาเสพติด) ในปีงบประมาณ 2564 มาแล้ว และบางคดีได้มีผลงานประจักษ์ทางหน้าจอทีวี โทรทัศน์ หรือสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อสังคม อินเตอร์เน็ต โซเชียลมิเดียต่างๆ ซึ่งบางคดีหรือบางภารกิจที่ไม่มีการเสนอข่าว อาทิ การตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่รัฐ  จนถูกให้ออก/ ไล่ออกจากตำแหน่ง กรณี เทศบาลตำบลคอนสวรรค์ 2 ราย กรณี กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอคอนสวรรค์ที่ 8 จำนวน 1 ราย เป็นต้น 

นอกจากนั้น ในช่วงปลายปี 2564 อำเภอคอนสวรรค์ มีเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่รวม 5 ตำบล ยาวนานถึง 45 วัน ข้าพเจ้าก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในด้านภารกิจน้ำท่วม อาทิ ขนคน ขนสัตว์ ขนข้าว สิ่งของ ที่ราษฎรนำออกมาไม่ได้ จนเรือที่ข้าพเจ้าและเจ้าหน้าที่อีก 10 กว่าชีวิตที่นั่งไปช่วยเหลือราษฎรในภารกิจดังกล่าวเกิดถูกน้ำพัดพาทำให้พลิกคว่ำตกน้ำไปเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วด้วย และภารกิจอื่นๆ อีกหลายภารกิจ อาทิ ประสานหาเงินงบประมาณในการก่อสร้าง และ/หรือ ซ่อมแซม บ้านเรือนที่อยู่อาศัยให้กับราษฎรผู้ยากไร้ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย 

ต่อมานายกองตรีพันธุ์ธัช ได้ย้ายที่ทำงานมาปฏิบัติงานที่ทำการปกครองอำเภอบ้านแท่น เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 และในฐานะข้าพเจ้าเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอบ้านแท่น (ศอ.ปส.อ.) ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายและคำสั่งศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอบ้านแท่น (ศอ.ปส.อ.) จึงได้ทำการจับกุม ปราบปราม ผู้กระทำความผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การค้า/จำหน่าย ขาย หรือเสพยาเสพติด และส่งตัวผู้เสพเข้ารับการบำบัด ฟื้นฟูฯ ที่โรงพยาบาลบ้านแท่น ในพื้นที่อำเภอบ้านแท่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 9 คดี ส่งตัวไปบำบัดฯ ไม่น้อยกว่า 29 ราย ในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม-2 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และบางคดีได้เห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์ทางหน้าจอทีวี โทรทัศน์ หรือสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อสังคม อินเตอร์เน็ต โซเชียลมิเดียต่างๆ และยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดภูเขียวอีก 8 คดี ที่ยังไม่มีคำพิพากษาออกมา ซึ่งในการปฏิบัติหน้าด้านยาเสพติดที่ผ่านมา เป็นการปฏิบัติงานที่เห็นเป็นที่ประจักษ์และเป็นการปฏิบัติงานที่แท้จริง สามารถตรวจสอบผลงานได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และมีคุณสมบัติครบถ้วนและสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด (ขั้นยาเสพติด) ในปีงบประมาณ 2565 นี้ด้วย แต่นายกองตรีพันธุ์ธัช ไม่ได้รับการพิจารณาเสนอชื่อให้เป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณา จากผู้บังคับบัญชาทั้งอำเภอคอนสวรรค์ และอำเภอบ้านแท่น แต่มีการเสนอชื่อเสมียนตราอำเภอ /ปลัดอำเภอ และนายอำเภอ ที่ไม่มีผลงานด้านยาเสพติด เป็นผู้ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด (ขั้นยาเสพติด) ในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งแม้แต่การประชุมยาเสพติดประจำเดือนก็ไม่เคยมีการจัดประชุมเลยตลอดระยะเวลาที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในอำเภอบ้านแท่น (ซึ่งในอำเภอคอนสวรรค์ นายพันธุ์ธัช จะเรียกประชุมแต่ถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิหาว่าข้ามหน้าข้ามตาผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งยักเลิกไป) ซึ่งงานด้านยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นงานที่ผู้บังคับบัญชาและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อผู้บังคับบัญชาท่านใด เสนอชื่อผู้ที่ไม่มีการปฏิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติดจริง แสดงว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและเป็นการกลั่นแกล้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเสียหาย เห็นควรได้รับบทลงโทษตามกฎหมายทั้งทางอาญา และทางวินัยด้วย จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้กับคนอื่นอีกต่อไป

นายกองตรีพันธุ์ธัช ยังบอกอีกว่าการที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ที่ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด (ขั้นยาเสพติด) ในปีงบประมาณ 2565 ในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นได้ว่าข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ซื่อสัตย์ สุจริต ตอบแทนคุณแผ่นดิน ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เสี่ยงอันตรายเข้าไปจับกุม ปราบปราบ ผู้มีอิทธิพล ผู้ค้า ผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาความดีความชอบในการปฎิบัติงาน ทำให้ตนเองขาดขวัญและกำลังใจในการทำงานเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้ราชการเสียประโยชน์และขาดคนดี มีฝีมือและเป็นมืออาชีพ ในการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดไปอย่างน่าเสียดาย จึงขอเรียกร้องให้ท่านทบทวนการพิจารณาเสนอชื่อผู้ที่สมควรจะได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด (ขั้นยาเสพติด) ในปีงบประมาณ 2565 ในครั้งนี้ใหม่ และให้นำผลงานมาแข่งขันกันอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าพเจ้าและข้าราชการอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจากทุกส่วนราชการทั่วประเทศ 

ด้านนายประเสริฐ กิ่งกรดกลาง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ บอกว่าหลังจากรับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายพันธุ์ธัช จะเร่งทำหนังสือให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบเรื่องภายในวันนี้ (11) ซึ่งจะทราบเรื่องขั้นตอนการดำเนินงานต่อไปไม่เกิน 15 วันอีกด้วย