นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังถูกท้วงติงเรื่องการใช้งบฯจัดกิจกรรมดนตรีในสวนตลอดปี 2566 จำนวนวงเงิน 8.9 ล้านบาทว่า การถูกท้วงติงทำให้กลับมาย้อนดูความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ ต้องขอบคุณ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ใช้งบประมาณมาก เพราะงบฯจำนวนดังกล่าวคือการดำเนินงานตลอดปี ซึ่งกิจกรรมในความรับผิดชอบของตนมีมาก งบฯส่วนนี้จะช่วยเสริมกิจกรรมต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เช่น เรื่องแสงไฟประดับ รวมถึงการนำวงดนตรีอาชีพมาช่วยพยุงวงดนตรีสมัครเล่นที่ตั้งใจมาร่วมกิจกรรมดนตรีในสวนหรือกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ กทม.จัดขึ้น เช่น กิจกรรมเปิดหมวกตามจุดต่างๆ เรื่องการใช้งบฯตนมีคำอธิบายรองรับทั้งหมด อยากขอบคุณคำติชม แต่หากการปรับปรุงด้วยงบประมาณในครั้งนี้ทำได้ดีขึ้น อยากให้สะท้อนกลับมาบ้าง เพราะหากไม่มีเสียงสะท้อนกลับมาเลย จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างไม่ทันระวังตัว เสียงสะท้อนทำให้ตนรอบคอบมากขึ้น หากมีอะไรที่ตนปรับปรุงได้ก็ยินดีอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ ตนขออธิบายว่า คำว่าเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ต้องดำเนินการหลายมิติไปพร้อมกัน การทุ่มเทกับมิติด้านโครงสร้างทางกายภาพอย่างเดียวพบว่าไม่ตอบโจทย์ยุคสมัย จำเป็นต้องดำเนินการด้านสร้างสรรค์และด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะด้านสร้างสรรค์สามารถสร้างความหวังให้กับคนได้ จากประสบการณ์พบว่าหลายครั้งที่ผู้คนรู้สึกว่าเมืองนี้ช่างโหดร้าย การสนับสนุนด้านสร้างสรรค์มุ่งหวังให้คนมีกำลังใจในการปรับปรุงเมือง และมีหวังในการก้าวต่อไป ทุกอย่างต้องดำเนินไปพร้อมกัน ไม่สามารถทุ่มเทเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือหยุดเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ทั้งนี้ การจัดงบประมาณต้องคุ้มค่า เป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และผ่านการตรวจสอบงบฯทั้งหมด จากงบประมาณที่ตั้งไว้ สุดท้ายแล้วจะใช้ไม่เต็มจำนวน เพราะมีการแข่งขันประกวดราคา เพื่อให้การใช้งบฯคุ้มค่าที่สุด

อย่างไรก็ตาม หลายกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่ได้ใช้งบประมาณ เช่นงานแถลงการแสดงในกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 ณ สวนสันติชัยปราการ(10ม.ค.66) อาศัยผู้ที่เห็นความสำคัญจากนโยบายนี้มาร่วมกันจัดงาน เพราะเป็นเรื่องที่พวกเขาสนใจ ทั้งจากภาคเอกชนและภาคประชาชน ตนเชื่อว่าความร่วมมือจากประชาชนดีกว่าการทุ่มงบฯ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า งานที่ทุ่มงบฯมักไม่ประสบความสำเร็จเท่างานที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งสุดท้ายแล้วการใช้งบประมาณมีระเบียบควบคุม เพราะมีจำนวนจำกัด ส่วนใหญ่งบฯถูกใช้ไปกับการก่อสร้างซ่อมบำรุงซึ่งมีความจำเป็น แต่งบฯในส่วนที่ตนชี้แจงก็เป็นการพัฒนาอีกด้านหนึ่งไปพร้อมกัน

สุดท้าย ตนยืนยันว่าการถูกท้วงติงไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามาในชีวิตก็ตาม สำหรับตน หัวใจสำคัญคือเนื้อหา ตนมีหน้าที่รับฟังและปรับปรุง สามารถแยกความรู้สึกออกจากงานได้