ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 10 มกราคม 2566 เวลา 13.00-15.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) ตรวจวัดได้ 34-54 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 44.7 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลงและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 14 พื้นที่ คือเขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตยานนาวา เขตลาดกระบัง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางพลัด เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตคลองสามวา เขตบางกอกใหญ่ เขตหนองแขม เขตประเวศ เขตบึงกุ่ม
: PM2.5 ค่ามาตรฐาน เฉลี่ย 24 ชม. ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่ช่วงวันที่ 5 - 11 ม.ค. 66 อากาศไม่ยกตัว(มีเสถียรภาพ) ประกอบกับเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราการระบายอ่อน/ไม่ดีในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้การสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 ค่อนข้างทรงตัว ในช่วงระหว่างช่วง 9-16 ม.ค.66 มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุม จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศอุ่นขึ้น มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อย และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีหมอกบางในตอนเช้า และวันที่ 10 มกราคม2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และใต้
แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 11 - 15 มกราคม 2566 จะมีแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากอากาศที่เปิดมากขึ้นประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรงเข้าช่วย
จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ในวันนี้ ไม่พบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกในบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร
แจ้งเตือนรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง
- FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
- FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
- FB: กรุงเทพมหานคร
- แอปพลิเคชัน AirBKK
เพื่อให้ประชาชนวางแผนการทำงาน การทำกิจกรรมโดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ/มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ทั้งนี้ กรณีประชาชนพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแส ผ่านทาง Traffy Fondue